Prime Video ช่องทางการถ่ายทอดสดกีฬาระดับพรีเมียมขององค์กรธุรกิจระดับโลก Amazon ประกาศข้อตกลงความร่วมมือกับ ONE ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ผ่านช่องทาง Prime Video เป็นจำนวน 12 รายการต่อปี โดยจะเป็นการเผยแพร่การถ่ายทอดสดทุกคู่ตลอดการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น โดยคาดว่าจะเริ่มถ่ายทอดสดรายการแรกช่วงปลายปีนี้
ONE เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และหนึ่งในสื่อกีฬาที่มียอดผู้รับชมและการมีส่วนร่วมสูงสุดในโลก รายการแข่งขันของ ONE เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ โดยมีนักกีฬาระดับโลกจากกว่า 80 ประเทศร่วมลงแข่งในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA), มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, ปล้ำจับล็อก และศาสตร์การต่อสู้แขนงอื่นอีกมากมาย
นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอของ ONE เปิดเผยว่า “เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Prime Video หนึ่งในผู้ให้บริการคอนเทนต์กีฬาระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อทำให้การแข่งขันสดของเราเข้าถึงแฟนกีฬาในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้ใกล้ชิดมากขึ้น ในฐานะองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันกับ Prime Video จะช่วยให้เราขยายฐานผู้ชมในอเมริกาเหนือที่ต้องการเห็นกีฬาต่อสู้ของแท้และแตกต่างจากองค์กรอื่น เราตั้งตารอที่จะได้นำเสนอนักสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกในสังเวียน ONE ผ่านทาง Prime Video”
ขณะที่ มารี โดน็อกฮิว รองประธานฝ่ายวิดีโอกีฬาระดับโลกของ Amazon กล่าวว่า “เราภูมิใจที่จะได้เพิ่มคอนเทนต์พิเศษของ วัน แชมเปียนชิพ เข้ามาในหมวดการถ่ายทอดสดรายการกีฬาที่เรามีอยู่ นอกจากการนำเสนอวิชาศิลปะการต่อสู้เต็มรูปแบบแล้ว ONE ยังมีเจตนารมณ์ในการยกระดับนักกีฬาหญิงเช่นเดียวกับเราด้วย ซึ่ง ONE มีนักสู้หญิงในสังกัดมากกว่า 100 คนและแชมป์โลกหญิงที่ครองตำแหน่งอยู่ถึง 5 คนด้วยกัน”
ทั้งนี้ วัน แชมเปียนชิพ เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยติดอันดับ 1 ใน 5 สื่อกีฬาระดับโลกที่มียอดผู้รับชมและการมีส่วนร่วมสูงสุด โดยมียอดแฟนกีฬาสะสมมากกว่า 400 ล้านคน ตามข้อมูลของ Nielsen ONE ผลิตและเผยแพร่อีเวนต์ระดับโลกในกว่า 150 ประเทศ โดยมีนักศิลปะการต่อสู้และแชมป์โลกจากกว่า 80 ประเทศที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบ ทั้ง MMA, มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, บราซิลเลียนยิวยิตสู และอื่นๆ สามารถรับชม ONE ได้ทางฟรีทีวีและสื่อดิจิทัลชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Amazon Prime Video Sports, Star Sports, Beijing TV, iQIYI, One Sports, Abema, IB, NET TV, Vidio, Startimes, Mediapro, ไทยรัฐทีวี, VieOn, Skynet, Mediacorp, Spark Sport, Match TV, Dubai Sports, RedeTV และอีกมากมาย
ขณะที่ Prime Video สนับสนุนการถ่ายทอดสดรายการกีฬาที่เติบโตขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Thursday Night Football, WNBA, Seattle Storm, New York Yankees และ Seattle Sounders FC ในสหรัฐอเมริกา พรีเมียร์ลีกในสหราชอาณาจักร, US Open Tennis, ATP และ WTA ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์, ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในเยอรมันและอิตาลี, การแข่งขัน Roland Garros และ Ligue 1 ในฝรั่งเศส, Australian Swimming ทั่วโลก, และ New Zealand Cricket ในอินเดีย แม้ความพร้อมใช้งานจะแตกต่างกันไปตามแต่ละตลาด แต่แฟนกีฬายังสามารถสมัครใช้บริการสตรีมมิงอย่าง Eurosport, FOX Sports (เม็กซิโก), LaLigaTV, MLB.TV, NBA League Pass, NBA TV และ Premiere FC (บราซิล) ผ่าน Prime Video Channels ร่วมกับ All or Nothing คอนเทนต์กีฬาดั้งเดิมที่ Amazon คัดสรร อันได้แก่ All or Nothing: Tottenham Hotspur, All or Nothing: Juventus, All or Nothing: Toronto Maple Leafs และ All or Nothing Seasons กับ Arizona Cardinals ของ NFL ในลอสแองเจลิส Rams, Dallas Cowboys, Carolina Panthers และ Philadelphia Eagles รวมถึงทีมฟุตบอล Michigan Wolverines ของ NCAA
ส่วน Amazon ทำงานภายใต้หลักการ 4 ประการ ได้แก่ ให้ความสำคัญต่อลูกค้ามากกว่ามุ่งเน้นการแข่งขันทางธุรกิจ, ความหลงใหลในนวัตกรรม, การมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และการมีวิสัยทัศน์ Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก เป็นนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดย Amazon ถือเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมธุรกิจและไลฟ์สไตล์ทางออนไลน์มากมาย ได้แก่ การรีวิวจากลูกค้า, การซื้อของในคลิกเดียว, คำแนะนำเฉพาะบุคคล, Prime, Fulfillment โดย Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, Career Choice, แท็บเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo, Alexa, เทคโนโลยี Just Walk Out, Amazon Studios และ The Climate ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ amazon.com/about และ @AmazonNews
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐสปอร์ต