“ชัยวุฒิ” มั่นใจ รัฐบาลยังคุมเสียงข้างมากได้ ชี้ ยังไม่ถึงเวลาคุย เรื่องนายกฯ สำรอง-นายกคนนอก โยนรัฐสภาตัดสิน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ปัดไม่ทราบ “พิเชษฐ” ท้า พปชร.ให้ขับออก 

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 3 พ.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมพรรคพลังประชารัฐ จึงไม่ได้มีการพูดคุยถึง เรื่องนายกฯ สำรอง ตามที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้นยืนยันว่า ในส่วนของกรรมการบริหารพรรค พปชร. ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าว และตามรัฐธรรมนูญก็ไม่มีเรื่องนี้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มีการประเมินและเตรียมแผนรองรับไว้หรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงกลไกตามรัฐธรรมนูญก็มีเรื่องของการรักษาการ และเป็นเรื่องที่นายกฯ และรองนายกฯ พูดคุยกันแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติของการบริหารราชการแผ่นดิน แต่หากเกิดเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุทางการเมือง ส่วนตัวคิดว่าก็ต้องมาคุยกัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาที่ต้องมาหาทางออกร่วมกันไม่ใช่เรื่องของพรรค พปชร. หรือ พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง อย่าลืมว่า จะต้องมีสมาชิกวุฒิสภา ร่วมด้วย ส่วนตัวคิดว่าเร็วเกินไปที่จะมาพูดหรือตัดสินใจในเรื่องนี้ คงต้องรอดูเหตุการณ์ตอนนั้นและพูดคุยร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวคิดว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นในลักษณะนี้เกิดขึ้นหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ คงต้องดูสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อถามย้ำว่า โอกาสที่จะมีนายกฯ คนนอกหรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญแล้วเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะต้องประชุมและลงมติร่วมกัน ส่วนจะผ่านหรือไม่ก็ไม่มีใครทราบ

เมื่อถามว่า ในทางกฎหมายหากมีนายกฯ รักษาการ จะสามารถชิงยุบสภาได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “เรื่องนี้ผมนึกไม่ออก เอาไว้เมื่อถึงเวลาก็ค่อยดูแล้วกัน แต่ทุกอย่าง ผมคิดว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและทุกคนก็รู้ดีว่า อำนาจการแต่งตั้งนายกฯ เป็นของรัฐสภา คือ ส.ส. และ ส.ว. จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องมาคุยกันเมื่อถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คงไม่มีใครไปนั่งคุยกันว่าจะเอานายกฯ ใหม่นู่นนี่นั่น เพราะยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ทำไมจึงมีข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นในช่วงก่อนเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ต้องมีฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามที่ต้องประโคมข่าว และสร้างประเด็นข่าวหรือสร้างกระแสกดดันมาที่รัฐบาลให้เกิดความไม่เชื่อมั่น จึงอยากฝากสื่อมวลชนไปถึงประชาชนว่า รัฐบาลยังคุมเสียงได้ ยังสามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้อย่างแน่นอน และคงทำงานได้ต่อไป เพราะรัฐบาลก็อยากขับเคลื่อนงาน ทั้งเรื่องของงบประมาณ การพัฒนาประเทศและการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาค่อนข้างมาก รัฐบาลก็ต้องการเดินหน้าทำงานและสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความเชื่อมั่นที่จะทำให้รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศไปได้ อย่าทำให้วิตกกังวลมากเกินไป จนทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะผลกระทบจะตกถึงประชาชน

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ารัฐบาลยังสามารถคุมเสียงข้างมากได้อยู่ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ขณะนี้เริ่มมีข่าวการจ่ายค่าหัวให้กับส.ส.ประมาณ 5-30 ล้านบาท นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่ให้ข่าวเรื่องนี้ตนไม่ได้ให้ข่าวจึงไม่ทราบ และยังไม่ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเช็กเสียงส.ส. วันนี้ยังไม่ถึงเวลาโหวตจึงยังไม่ทราบ แต่การพูดถึงเรื่องเงินเรื่องทองในลักษณะนี้ตนก็ฟังมาโดยตลอดแต่ก็ไม่เห็นมีข้อเท็จจริงอะไร

เมื่อถามถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. เดินสายไปรับประทานอาหารร่วมกับพรรคฝ่ายค้านจะมีปัญหาหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายพิเชษฐ ซึ่งมีสไตล์เป็นแบบนี้ ท่านอาจจะชอบไปคุยกับคนนู้นสังสรรค์กับคนนี้ ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าไปมองเป็นเรื่องของพรรคหรือปัญหาทางการเมือง

“คนออกไปกินข้าวแบบนี้กันเยอะแยะ ผมเองก็ออกไปกินข้าวกับฝ่ายค้านบ้างเช่นกัน ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เป็นเพื่อนกันบางครั้งก็ไปคุยกันเรื่องงาน บางครั้งก็เป็นคณะกรรมาธิการชุดเดียวกันก็ไปสังสรรค์กันได้” นายชัยวุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่นายพิเชษฐท้าให้พรรค พปชร. ขับออก นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่คงไม่ถึงขั้นนั้น นายพิเชษฐ ยังไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ไปพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่เท่าที่ฟังดูนายพิเชษฐก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นปัญหา เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในการทำหน้าที่ของนักการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนการพูดพาดพิงไปถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและเลขาธิการพรรค พปชร.นั้น ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายสันติเอง

เมื่อถามว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ ส.ส.ปั่นราคาให้ตัวเองหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ใช้คำนี้มันแรงเกินไป.

ที่มา thairath