สปสช. ชี้แจง “ฝังยาคุมกำเนิด“ เป็นสิทธิประโยชน์ฟรีสำหรับหญิงไทยตามกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษา การรับบริการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์กำหนด
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวบนสื่อออนไลน์ที่ตั้งข้อสังเกตการเข้ารับบริการฝังยาคุมกำเนิด ฟรี สิทธิประโยชน์บริการคุมกำเนิดถาวร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” นั้น สปสช. ขอเรียนชี้แจงว่าบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรเป็นบริการภายใต้กองทุนบัตรทอง นอกจากบริการใส่ห่วงอนามัยแล้ว ยังรวมถึงบริการฝังยาคุมกำเนิด รวมถึงลดการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยโดยกำหนดหลักเกณฑ์การรับบริการดังนี้
โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการระบบบัตรทองหรือระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ร่วมบริการตามความสะดวกได้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การบริการฝังยาคุมกำเนิด สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณรองรับบริการให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงบริการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่จำนวน 103.21 ล้านบาท กำหนดเหมาจ่ายบริการฝังยาคุมกำเนิดในอัตรา 2,500 บาทต่อราย โดยในช่วง 6 เดือน ปีงบให้บริการแล้วจำนวน 10,439 ราย เบิกจ่ายค่าบริการจำนวน 39,871,800 บาท แยกเป็นบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรทั้งบริการฝังยาคุมกำเนิดและบริการใส่ห่วง ในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 9,280 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 36,987,900 บาท และในหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป กรณีหลังยุติตั้งครรภ์ จำนวน 1,159 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 2,883,900 บาท
สำหรับการเข้ารับบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวร จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์บริการ ซึ่งในกรณีผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จะครอบคลุมทุกคนที่ต้องการรับบริการ แต่กรณีอายุ 20 ปีขึ้นไป กำหนดให้สิทธิเฉพาะผู้ที่ยุติการตั้งครรภ์เท่านั้น สำหรับเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับมานี้ สปสช.ยินดีรับฟังและนำมาปรับปรุง โดยในส่วนของแอปเป๋าตัง สปสช.ได้มีประสานไปยังธนาคารกรุงไทยเพื่อเพิ่มเติมข้อความที่ระบุว่า “กรณีอายุเกิน 20 ปีให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์” เพื่อขยายความให้ชัดเจนในการเข้ารับบริการ และ สปสช.จะเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจต่อไป
ทั้งนี้ บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในแอปเป๋าตังนั้น ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบสิทธิที่ท่านจะได้รับตามกลุ่มวัยและเพศของท่านได้ โดยเข้าไปที่กระเป๋าสุขภาพ เมื่อลงทะเบียนแล้วจะปรากฏรายละเอียดสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน และสามารถตรวจสอบสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพที่ท่านได้รับได้ เฉพาะในพื้นที่ กทม.ขณะนี้นำร่องสามารถจองคิวนัดหมายเข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้
อย่างไรก็ตาม สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง ได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
ที่มา thairath