หมอรับ วัคซีนมีส่วน ทำเด็ก 12 ปี ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มแล้วตาบอด ผู้ว่าฯภูเก็ต เรียกประชุมด่วน เตรียมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

กรณีปู่และย่าของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้ ร้องเรียน ผู้สื่อข่าวว่าหลานชาย ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม โดยหลังฉีดเข็ม 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ย.64 หลานมีอาการไม่สบาย และช็อกหมดสติ จนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลถลางและส่งต่อไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

โดยเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ประมาณ 2 สัปดาห์ ภายหลังฟื้นขึ้นมา พบว่าตาทั้งสองข้างมองไม่เห็นแล้ว เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่ผ่านมายังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆในพื้นที่ โดยน้องเอ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของปู่และย่า เนื่องจากไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ความคืบหน้า วันที่ 9 พ.ค.65 ที่ห้องประชุมชั้น 4 ของศาลากลางจังหวัดภูเก็ต(หลังใหม่) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พญ.เหมือนแพร บุญล้อม รักษาการในตำแหน่งนายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต

พญ.ณัฐวรรณ เทพณรงค์ หน.กุมารแพทย์และโรคติดเชื้อเด็ก นพ.คงกฤช กาญจนไพศิษฐ์ แพทย์ หู คอ จมูก พญ.ปรารถนา ตุลยกนิษก์ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมจักษุและตกแต่งและเสริมสร้าง ร่วมแถลงข่าวกรณีสื่อนำข้อมูลเกี่ยวเด็ก 12 ปี ตาบอด และหูหนวก จากการฉีดวัคซีน ไฟเซอร์เข็มที่ 2

นพ.คงกฤช กาญจนไพศิษฐ์ แพทย์ หู คอ จมูก กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เด็ก มีปัญหาเรื่องการสูญเสียการมองเห็น เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เชื่อว่าอาจจะเริ่มต้นจากไซนัส และลุกลามเข้าไปในตาและบริเวณทางสมองทำให้เกิดภาวะการอักเสบของตาและเส้นประสาทตาและเส้นประสาท ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อตา และทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น เพราะเกิดจากการอักเสบ

หลักฐานที่สนับสนุนคือไม่ว่าจะเป็นเชื้อจากไซนัสเชื้อจากตาเชื้อจากน้ำไขสันหลังทุกอันขึ้นเชื้อตัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นความเห็นทางการแพทย์ก็เลยสนับสนุนการสูญเสียการมองเห็นเกิดจากการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ถามว่าเชื้อแบคทีเรียตัวนี้เจอบ่อยไหมแปลกไหม เจอได้อาจจะมีงานวิจัยบางอันบอกว่าเป็นได้ 10% ในเด็ก แต่ไม่ได้เป็นเชื้อที่พบบ่อย

ถ้าพบหมอก็จะไม่แปลกใจ เพราะว่าพบได้ แต่ถ้าเป็นเชื้อตัวนี้จะมีความรุนแรงกว่าเชื้อตัวอื่นมีโอกาสที่จะเข้าไปในตา ตาอักเสบเข้าไปทางสมองทำให้เส้นเลือดตาและอวัยวะอักเสบได้มาก กว่าเชื้อแบคทีเรียตัวอื่น เพราะเนื้อที่เยอะกว่า

เชื้อตัวนี้ติดมาจากไหนก็ตอบยาก พอเข้าตาและ บริเวณทางสมอง หน้าที่ของหมอคือ 1.ต้องกำจัดแหล่งติดเชื้อ อันนั้นและกำจัดโดยรีบ ผ่าเปิด ระบายไปพบไซนัส แล้วก็รีบให้ยาฆ่าเชื้อนี่คือเป็นการรักษาการอักเสบ ผ่าแล้วก็ให้กลุ่มยาละลายลิ่มๆเพื่อให้เลือดเกิดการโชว์ได้ดีขึ้นเราก็รักษาไป เต็มที่ แล้วการพยากรณ์โรค

ที่มา khaosod