แม่ค้าลั่นจะตายกันหมดแล้ว ของแพงขึ้น แบกไม่ไหว อาจปิดกิจการ ไปทำอาชีพอื่น

แม่ค้าลั่นจะตายกันหมดแล้ว วัตถุดิบแพงขึ้นทุกอย่าง แบกต้นทุนไม่ไหว ถ้ายังไม่ลด อาจปิดกิจการ ไปหาทำอาชีพอื่น วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา

วันที่ 11 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พูดคุยกับผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในอีกหลาย ๆ กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ หลังสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการ โดยเฉพาะน้ำมันพืช เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และผักสด ขยับราคาสูงขึ้น

น.ส.โอฬาร วรัญญูอุฬาร เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายอาหารตามสั่งมาแล้วกว่า 10 ปี โดยทุกวันจะใช้เงินทุนซื้อวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารประมาณ 3,000 บาท แต่ปรากฏว่าหลังจากราคาต้นทุนวัตถุดิบยกขบวนกันปรับราคาขึ้นแทบทุกอย่าง ทั้งผักสด เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก น้ำมันพืช ข้าวหอมมะลิ

ไม่เว้นแม้แต่น้ำปลา และบรรจุภัณฑ์ ถุงพลาสติก กล่องใส่อาหาร อย่างเช่น หมูสันนอกจากราคา กิโลกรัมละ 150 บาท ขึ้นเป็น 180 บาท น้ำมันปาล์ม จากถุงละ 35 บาท ขึ้นมาเป็น 66 บาท ถุงพลาสติกแพ๊คละ 40 บาท ขึ้นไปเป็น 45 บาท ทำให้งบ 3,000 บาทต่อวันที่ตั้งไว้ ได้วัตถุดิบไม่ครบเท่าที่ต้องการ

ทำให้ตนต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จนไม่สามารถคงราคาขายเท่าเดิมได้ จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นในส่วนเมนูอาหารทะเลจากจานละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็น 60 บาท เมนูที่ทำจากเนื้อหมูและเนื้อไก่ จานละ 30 บาท เป็น 40 บาท โดยตนได้ชี้แจงถึงสาเหตุการปรับราคาให้กับลูกค้าฟัง ซึ่งลูกค้าก็ยินดี เข้าใจถึงสถานการณ์ราคาสินค้า

อย่างไรก็ตาม หากราคาวัตถุดิบยังคงปรับขึ้นไปมากกว่านี้ ตนคงต้องหยุดกิจการชั่วคราว และอาจหันไปทำอาชีพรับจ้างแทน เพราะไม่อยากขึ้นราคาขายอาหารอีกแล้ว เนื่องจากเกรงใจลูกค้า ตนอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอย่างเร่งด่วน เพราะตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าจะแบกรับภาระต้นทุนกันไม่ไหวแล้ว จะตายกันหมดแล้ว

ที่มา khaosod