“ชัชชาติ” ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 17 สุดฟิต วิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมพินี บอก 3 สิ่งแรกที่จะทำทันที คือ พูดคุยกับข้าราชการ กทม.-จัดลำดับปัญหา-และแก้ปากท้องให้ประชาชน ย้ำ ไม่ยุ่งการเมืองใหญ่ แต่อยากทำเมืองให้ดีขึ้น.

วันที่ 23 พ.ค. 65 เวลา 05.00 น. ที่สวนลุมพินี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาวิ่งออกกำลังที่สวนลุมพินี ตามปกติประจำวัน โดยสวมรองเท้าคู่ใจ สีขาวข้างหนึ่ง สีดำข้างหนึ่ง ที่มีรุ่นและไซส์เดียวกัน ท่ามกลาง สื่อมวลชนหลายแขนงมาติดตามทำข่าวนายชัชชาติ เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เมื่อนายชัชชาติ มาจุดนัดหมายกับกลุ่มเพื่อนนักวิ่ง ก็ได้เริ่มวิ่งออกกำลังกาย รอบสวนลุมพินีรอบใหญ่ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จำนวน 4 รอบ กับทีมเพื่อนชัชชาติ และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ที่มาร่วมวิ่งไปด้วยกัน นายชัชชาติ วิ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ร่าเริง โบกมือทักทายและขอบคุณประชาชนชาวสวนลุมพินีที่ให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันมีประชาชนที่มาวิ่งขอถ่ายรูป แสดงความยินดีเป็นจำนวนมากตลอดเส้นทางที่วิ่งภายในสวนลุมพินี

นายชัชชาติ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา แม้จะได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็หลับสบาย การมาวิ่งที่สวนลุมพินี เป็นวิถีชีวิตตามปกติของตน ซึ่งโดยปกติตนมักจะมาวิ่งวันละ 10 กิโลเมตร และที่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดและการมีแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ว่า กทม. เพื่อเปลี่ยนเมือง โดยได้พูดคุยกับเพื่อนๆ เจอผู้คน สวนลุมพินีถือเป็นศูนย์รวมของความแตกต่างและความขัดแย้งทางความคิด แต่ทุกคนมาสามารถมารวมใช้ชีวิตร่วมกันได้ ตนจึงเชื่อว่า จะสามารถทำให้คนกรุงเทพฯ รวมเป็นหนึ่งได้ ทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ก็อยากมาขอบคุณเพื่อนนักวิ่งทุกคนที่ให้การสนับสนุนการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ทำให้คิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีหลายคนที่คิดว่าไม่อยากยุ่งการเมืองใหญ่ แต่อยากทำเมืองให้ดีขึ้น รวมทั้ง ยังได้รับการสนับสนุนจากชมรมนักวิ่งตามส่วนต่างๆ ในกรุงเทพฯ เช่น สวนจตุจักร สวนแต้จิ๋ว สวนรถไฟ มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีพลัง ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านคะแนน ก็ขอขอบคุณทุกคะแนน มองว่าเป็นกำลังใจที่ก้าวเดินต่อไป ขอให้อย่ายึดติดมากกับคะแนน สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อดูแลคน กทม. 6 ล้านคนอย่างเท่าเทียมกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมในการทำงานผู้ว่าฯ กทม. นายชัชชาติ ตอบทันทีว่า สามารถเตรียมชุดไปทำงานได้เลยทันที เพราะผลคะแนนที่ได้รับ 1.3 ล้านเสียง เป็นคำสั่งของประชาชนชาวกรุงเทพฯ สั่งให้ไปทำงาน ตนก็ต้องทำงานให้ดี แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย รอเพียง กกต.ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ฝนตกน้ำท่วม ตนจะลงพื้นที่ไปดูสภาพปัญหาด้วยตัวเองทันที พร้อมทำงานตั้งแต่วินาทีนี้ และทีมงานก็ดีมาก มีพลังในการทำงาน

“แม้ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวกรุงเทพฯ นึกถึง แต่ต้องไม่ลืมปัญหาพื้นฐานอื่นๆ เช่น ทางม้าลาย ความปลอดภัยบนท้องถนน ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนกังวล ดังนั้น ทุกอย่างต้องเริ่มวางแผน คิดว่าจะเพิ่มอะไรขึ้นบ้าง ส่วนการลงพื้นที่ทำงาน ผมจะไม่เน้นว่าจะต้องลงพื้นที่เขตไหนก่อนเขตไหนหลัง แต่จะยึดสภาพปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขเป็นอันดับ ลงพื้นที่ตามสภาพปัญหา สิ่งแรกที่จะทำทันที เมื่อ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง อับดับ การหารือกับข้าราชการ กทม. เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของตน และปรับทัศนคติการทำงานร่วมกัน อับดับสอง คือ ดูแลแก้ไขปัญหาของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และ สาม คือ เร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน” นายชัชชาติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้จะส่งสัญญาณไปถึงการเมืองใหญ่หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ยังไม่อยากให้มองไปไกลถึงขั้นนั้น ไม่อยากให้แบ่งขั้วการเมืองว่าเป็นฝั่งประชาธิปไตยหรือฝั่งใด ตอนนี้ตนมาเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ไม่อยากผูกมัดกับการเมืองใหญ่ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ตนต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ส่วนจะเป็นการสร้างแรงกดดันไปถึงรัฐบาลหรือไม่ ก็แล้วแต่คนตีความ ทั้งนี้เชื่อว่า รัฐบาลใหญ่หากเตรียมจัดการเลือกตั้งคงต้องดูบทเรียนจากการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อปรับกลยุทธ์เหมือนกัน แต่ตนไม่ได้มองไกลถึงมติการเมืองใหญ่ ขอแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคนเพราะกรุงเทพฯ มีความแตกต่าง ดังนั้นก็จะต้องบริหารความแตกต่างให้ได้

กระทั่งเวลา เวลา 07.30 น. หลังจากนายชัชชาติ วิ่งครบระยะทาง 10 กิโลเมตร ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ทั้งนี้หลังจากวิ่งในช่วงเช้า ก็จะกลับไปหาคุณแม่ ส่วนลูกชายได้โทรมาแสดงความยินดีตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่าย อาจจะลงพื้นที่ดูปัญหาจุดน้ำท่วมซ้ำซาก และช่วงเย็นลงพบพี่น้องชาวชุมชนคลองเตย

ก่อนที่ นายชัชชาติเดินทางกลับ ยังมีประชาชนมาขอถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วยตลอดเส้นทาง และทีมเพื่อนชัชชาติ ที่มาร่วมวิ่งด้วยกันในวันนี้ต่างร่วมกันร้องเพลง อวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า ที่จะถึงในวันที่ 24 พ.ค. ครบรอบ 56 ปี ให้กับนายชัชชาติ ด้วย โดยนายชัชชาติ บอกว่า จำได้ว่า 8 ปีที่แล้ว แฮปปี้เบิร์ธเดย์ในค่ายทหาร และยอมรับว่า ไม่ใช่ความสำเร็จของตนเองเพียงคนเดียว แต่มีทีมงานที่เก่งและมีความคิดนอกกรอบ ซึ่งหากเป็นการเมืองแบบเดิมๆ คงไม่ได้คิดรูปแบบนี้ และทำให้ตอนนี้มีแฟนคลับทุกกลุ่ม เพราะเราต้องดูแลทุกคน

นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนมาวิ่งในสวนลุมฯ เป็นประจำอยู่แล้ว ถึงต่อไปต้องทำงานก็ยังมาวิ่งอยู่ดี และจะไปวิ่งที่สวนสาธารณะอื่นด้วย ไม่ใช่จะวิ่งที่สวนลุมฯ ที่เดียว ระหว่างวิ่งก็ทำให้เห็นว่าตรงไหนดีหรือไม่ดี จะได้รีบปรับปรุงแก้ไข เพื่อพี่น้องคนกทม. จะได้สะดวกสบายในการเข้ามาออกกำลังกาย

“ทำให้คิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียว มีหลายคนที่คิดว่าไม่อยากยุ่งกับการเมืองใหญ่ แต่อยากทำเมืองให้ดีขึ้น”

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึง 3 สิ่งแรกที่จะทำทันที คือ การหารือกับข้าราชการ กทม. เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของตน จัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ต้องแก้ไข และปัญหาปากท้องประชาชน

https://f2f35152c0f501b59de4e32f0c228eae.safeframe.googlesyndication.com/safeframe/1-0-38/html/container.htmlAds by optAd360

“คะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านคะแนน ขอขอบคุณทุกคะแนน เป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไป และสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลคนกรุงเทพฯ 6 ล้านคนอย่างเท่าเทียมกัน”

นายชัชชาติ ย้ำว่า ทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง จะนำนโยบายที่หาเสียงไว้ 213 นโยบาย มาเริ่มทำทันที และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย ด้วยการรับฟังและนำนโยบายของผู้สมัครทั้งหมดมาประมวลผลแล้วดำเนินการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด เนื่องจาก กทม.ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องทำงานอย่างเต็มที่ที่สุด

นโยบายของ ว่าที่ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่ได้สัญญาให้ไว้กับชาวกรุงเทพฯ 

 “กรุงเทพฯ 9 ดี” หรือ “นโยบาย 9 มิติ” ดังนี้

1. สิ่งแวดล้อมดี – สะอาดใกล้บ้าน เข้าถึงพื้นที่สีเขียวภายใน 15 นาที

2. สุขภาพดี – ดูแลสุขภาพเชิงรุก ปรับปรุงการบริหารจัดการ พาหมอไปหาประชาชน

3. เดินทางดี – เชื่อมต่อคล่องตัว เข้าถึงได้ ราคาถูก ราคาเดียว

4. ปลอดภัยดี – ปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา ลดจุดเสี่ยง เพิ่มความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉิน

5. บริหารจัดการดี – ประชาชนมีส่วนร่วมโปร่งใส ไม่ส่วย มีประสิทธิภาพ

6. โครงสร้างดี ครอบคลุมทุกเส้นเลือดฝอย ทั้งโครงสร้างการระบายน้ำ ที่พักอาศัย และผังเมือง

7. เศรษฐกิจดี – ทำกรุงเทพฯ ให้ถูกลง สร้างโอกาส สร้างรายได้ ขยายศักยภาพเศรษฐกิจเมือง

8. สร้างสรรค์ดี – ที่ไหนก็สร้างสรรค์ พิพิธภัณฑ์ พื้นที่สาธารณะ ห้องสมุดดิจิทัล และพื้นที่งานศิลปะ

และ 9. เรียนดี – ยกระดับการดูแล เพิ่มโอกาส เพิ่มเวลาให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง.

ที่มา thairath