ป.ป.ช. ย้ำ แค่แจ้งข้อกล่าวหา “ปรีชา จันทร์โอชา” ไม่ใช่ชี้มูล ฟัน 3 ส.ส.ภูมิใจไทย 1 ส.ส.พลังประชารัฐ เสียบบัตรแทนกัน ด้าน “ชวน” พร้อมตรวจสอบจริยธรรม ส.ส. หากถูกชี้มูลว่าผิดจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีมติชี้มูลความผิด ส.ส. 4 ราย ได้แก่ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์, นายภูมิศิษฐ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย, นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กรณีปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วาระ 2-3 มีหลักฐานชัดเจนว่าทั้ง 3 คน ไม่อยู่ในห้องประชุม และฝากบัตรลงคะแนนแทนกัน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 172 ให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามประมวลจริยธรรม ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิด น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กรณีฝากบัตรให้ผู้อื่นเสียบแทนระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงมีความผิดตามประมวลจริยธรรม ให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาพิจารณาเช่นกัน
ขณะที่ ส.ส.อีก 2 ราย คือ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐนั้น ป.ป.ช. เห็นว่ากระทำผิดเฉพาะข้อบังคับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากทั้ง 2 คน อยู่ในห้องประชุมสภาฯ แต่ยื่นให้เพื่อนเสียบแทนให้จึงไม่เข้าข่ายความผิดอาญาให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ ดำเนินการเท่านั้น ส่วน นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย และนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ทางด้าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ที่ถูกกล่าวหาจงใจแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จ ขั้นตอนหลังจากนี้ ป.ป.ช. จะเปิดโอกาสให้ พล.อ.ปรีชา มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา นำพยานหลักฐานมาสืบหักล้าง หลังจากชี้แจงเสร็จค่อยมาสรุปเพื่อวินิจฉัย
“ข่าวที่ออกไปว่า ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พล.อ.ปรีชา แล้วนั้น ยืนยันว่าไม่จริง ยังไม่ได้มีการชี้มูล เป็นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น”
ขณะที่ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า กรณี ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จนั้น ได้ชี้แจงรายละเอียด ป.ป.ช. ไปหมดแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา คิดว่าไม่มีอะไร ส่วนมติที่ออกมาเป็นเอกฉันท์แล้ว ไม่ทราบ ป.ป.ช. มีเหตุผลอย่างไร หากข่าวออกมาอย่างนี้จะชี้แจงต่อไป ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขอรอดูท่าทีก่อนว่า ป.ป.ช.จะทำอย่างไรต่อ ยังตอบไม่ได้ว่าจะพร้อมสู้ในชั้นต่อไปหรือไม่ เพราะยังเป็นขั้นตอนของ ป.ป.ช.
ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กรณีเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่บัญญัติไว้ว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดทางจริยธรรมร้ายแรง นั้น
นายชวน ระบุว่า กรณีความผิดทางอาญาที่ต้องส่งศาลเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ดำเนินการโดยตรง ส่วนเรื่องความผิดจริยธรรมทาง ป.ป.ช. จะส่งเรื่องมาที่สภาฯ เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมสภาดำเนินการต่อไป ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบกับทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าเรื่องยังไม่ส่งกลับมาทางสภาฯ หาก ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่ากระทำผิดก็ต้องรอคำสั่ง ส่วนจะต้องส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยหรือไม่ ป.ป.ช.จะเป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งที่สภาฯ จะต้องตรวจสอบคงเป็นเรื่องของความผิดทางจริยธรรม ส.ส. แต่ทั้งหมดยังต้องรอดูรายละเอียดคำวินิจฉัยชี้มูลของ ป.ป.ช.อีกครั้ง.
ที่มา:thairath