ตายายสุดทน! แจ้งจับหลานคลั่งทำร้ายปางตาย อ้างไม่ติดยา แต่เสพวันละ 2 เม็ด ผวาทั้งหมู่บ้าน ชอบอาละวาดทำลายข้าวของ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 2565 ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งบุกทำร้ายร่างกายบุคคลในครอบครัว ที่บ้านเลขที่ 161/1 ชุมชนคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จึงแจ้งให้ตำรวจสายตรวจอินทรีย์ ร่วมกับอาสาสมัครตำรวจ กว่า 10 นาย เดินทางไปตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถือเหล็กง่ามและกระบองไประงับเหตุด้วย ท่ามกลางชาวบ้านที่กำลังแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบนางบุญศรี ส่วนน้อย อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นหลานชายแท้ๆ คือ นายธีรภัทร สายจันทร์พงศ์ อายุ 24 ปี หลังจากก่อเหตุทำร้ายร่างกายตนและสามีซึ่งเป็นตา ก่อนเข้าไปหลบอยู่ในบ้าน และปิดประตูแน่นหนา

เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้เปิดประตู แต่กลับไม่มีเสียงตอบ จึงใช้กำลังงัดประตูเข้าไปภายในบ้าน ผู้ก่อเหตุได้โวยวายพยายามต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไปดำเนินคดีได้อย่างทุลักทุเล

นางบุญศรี นำผู้สื่อข่าวไปดูความเสียหายที่หลานชายก่อเหตุ พบว่าทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายหลายรายการ โดยก่อนหน้านี้เคยเตะ ใช้ไม้ทุบตี และใช้มีดปลายแหลมทำร้ายร่างกายตน ตนใช้กระทะรับจนทะลุ

ด้านนายประดิษฐ์ ส่วนน้อย อายุ 68 ปี ตาของผู้ต้องหา กล่าวว่า เวลาที่หลานคลุ้มคลั่ง ตนสู้ไม่ได้ เพราะเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ก่อนหน้านี้เคยบีบคอตน ประตูบ้านก็ทำลายพังหมด ตนกลัวมากจนต้องปิดประตูหนี ทำร้ายแม้กระทั่งหลานที่ยังเล็กๆ หลานชายมีอาการแบบนี้มานานแล้วเพราะติดยาเสพติด จนเอาไม่อยู่แล้ว เพื่อนบ้านผวากันหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามนายธีรภัทร ผู้ก่อเหตุ ได้ตอบปฏิเสธว่าไม่เคยทำร้ายตา แต่เคยด่าตาจริงๆ เพราะตารับที่นายธีรภัทรอยู่สภาพแบบนี้ไม่ได้ ส่วนใหญ่จะทำลายข้าวของ ทั้งยังปฏิเสธว่าไม่ได้ติดยาเสพติด แต่ยอมรับว่าเสพยาจริง วันละ 2 เม็ด เมื่อถามว่าพร้อมที่จะไปรักษาตัวหรือไม่ นายธีรภัทร ตอบว่า ไม่ได้เป็นอะไร ทั้งนี้ ทราบว่ามีเพื่อนบ้านแจ้งความให้มาจับกุมกว่า 10 ครั้งแล้ว

ด้านนางบุญศรี ซึ่งเป็นผู้แจ้งจับหลานชาย กล่าวว่า ตนไม่อยากแจ้งจับหลาน แต่ทนไม่ไหวจริงๆ โดนทำร้ายเจ็บปางตายหลายครั้ง เพื่อนบ้านผวาด้วยความกลัวไม่กล้าเดินผ่านบ้านของตน งานแต่งงานที่จัดใกล้บ้านต้องย้ายสถานที่จัด เพราะกลัวหลานจะเข้าไปทำลายอาละวาดในงานเสียหาย ทุกคนก็ปิดประตูกลัวจะโดนตามไปทำร้าย ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปก็รู้สึกโล่งอก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากๆ

ที่มา : khaosod