กรณีเด็กหญิง 14 ปีที่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน จนเดินลัดทุ่งไปปรึกษาป้าเรื่องจึงแดงออกมา เผยชาวบ้านก็สงสัยพฤติกรรมพ่อเลี้ยง ขณะที่ คนใจดีพาไปปรึกษาแพทย์หาทางออก แต่ก็สายไปยุติตั้งครรภ์ไม่ได้
กรณี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เล่าว่า ถูกพ่อเลี้ยงของตัวเองบังคับขืนใจมาตั้งแต่อายุ 13 ปี จนตั้งท้องได้ 5 เดือน เด็กทำอะไรไม่ถูกเพราะพ่อเลี้ยงขู่ไว้ หากเอาเรื่องไปบอกใครจะซ้อมแม่ เกรงว่าแม่จะโดนทำร้ายกล้ำกลืนทนให้พ่อเลี้ยงขืนใจนานกว่า 1 ปี ไม่มีทางออกต้องกระเสือกกระสน หนีออกจากบ้านด้านการเดินลัดเลาะทุ่งนา ไปขอความช่วยเหลือจากป้าไกลกว่า 10 กม.
ล่าสุด วันที่ 1 มิ.ย.65 เจ้าของร้านชำ ที่เด็กมาซื้อของประจำ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เด็กมาซื้อของที่ร้าน ได้ทักไปหลายครั้งว่า “ทำไมท้องโตผิดปกติ” น้องบอกว่าไม่รู้ อาจจะกินข้าวเยอะ และทุกครั้งที่เด็กมาที่ร้านจะทักตลอด จนสุดท้ายบอกกับเด็กว่า “ให้ไปปรึกษาหมอนะ” เพราะท้องโตขึ้น ทำให้น้องน้ำตาซึม แล้วเดินก้มหน้าออกจากร้านไป กระทั่งมารู้ว่าเดินลัดทุ่งนาไปขอให้ป้าตัวเองช่วยเหลือ
เจ้าของร้านชำ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่ตนเองเพียงคนเดียวที่สงสัย ชาวบ้านอีกหลายคนต่างตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของพ่อเลี้ยง โชคดีที่ตนทักไปหลายครั้ง หากไม่มีใครให้คำแนะนำ หรือหากป้าอยู่ไกลเกินกว่าน้องจะเดินไปขอความช่วยเหลือได้ เด็กจะทำอย่างไรหลังท้องโตขึ้นมากกว่านี้ เพราะไม่สามารถพึ่งแม่ที่อยู่ด้วยกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางจุรุมาศ อังคศิริชัย อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังทราบข่าวพยายามเข้าไปช่วยเหลือ เด็กหญิงผู้เสียหาย เบื้องต้นได้พาเด็กไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ พร้อมปรึกษาแพทย์กรณีเด็กในท้อง ว่าจะหาวิธีการใดได้ เนื่องจากเด็กไม่พร้อม และอยากจะเรียนต่อ แต่แพทย์ระบุ ไม่สามารถเอาเด็กออกได้ เพราะอายุครรภ์มากแล้ว.
ที่มา thairath