เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า เราเริ่มต้นฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบปูพรมทุกจังหวัด ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนั้น เราให้ความสำคัญกับการเปิดภาคเรียน ซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการฉีดวัคซีนได้ เราจึงเร่งฉีดให้กับบุคลากรการศึกษา ร่วมกับบุคลากรขนส่งมวลชน เพราะเป็นกลุ่มที่ต้องสัมผัสกับเด็ก ซึ่งเราดำเนินการไปแล้ว

นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ ที่ประกาศว่าสามารถใช้ได้กับผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป เราก็ดำเนินการสั่งซื้อมา 20 ล้านโดส คาดว่าเขาจะส่งให้เราได้ภายในปีนี้ ซึ่งเด็กอายุ 12-18 ปีในประเทศ มีประมาณ 5 ล้านคน วัคซีนไฟเซอร์จึงครอบคลุมได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ สธ. คาดหวังมากที่คาดหวังมากที่สุดคือ วัคซีนซิโนแวค ที่เรามีใช้อยู่แล้ว ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตฯ กำลังศึกษาและขึ้นทะเบียนวัคซีน เพื่อใช้กับผู้ที่อายุ 3 ขวบขึ้นไป ทำให้มั่นใจได้ว่า รัฐบาลไทยจะนำวัคซีนไปฉีดให้เด็กกลุ่มนี้ด้วย

“มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ทำให้ประชาชน เดินถูกทางมาโดยตลอด เราพยายามป้องกันดูแลรักษาประชาชนจากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างสุดความสามารถ มั่นใจได้ว่าประเทศไทยไม่เคยขาดการดูแลรักษาที่ดีให้กับประชาชน พร้อมทั้งยา เครื่องมือรักษา และวัคซีนที่จะเข้ามาปิดเกมนี้” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงความชัดเจนของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ระบุว่าจะส่งวัคซีนให้ประเทศไทย เดือนละ 5-10 ล้านโดส จนครบ 61 ล้านโดสในปลายปี 2564 นายอนุทิน กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายเดิมอยู่ และน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น เพราะเราสามารถทำสัญญาระยะยาวกับแอสตร้าฯ จึงเป็นวัคซีนหลักของเรา รวมถึงสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้ออื่นด้วย ช่วงที่ประเทศไทยทำสัญญากับแอสตร้าฯ ในเดือน ส.ค.2563 ขณะนั้น วัคซีนเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องการ ไม่มีใครกล้าทำสัญญาระยะยาว แต่แอสตร้าฯ มั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย เขาจึงมาตั้งโรงงานผลิตในประเทศเรา

เมื่อถามถึงความขัดแย้งระหว่าง สธ. กับรัฐบาลหรือศูนบริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่า สธ. นิ่งมาโดยตลอด แต่ไม่ใช่การขัดขืน เพราะแพทย์ ผู้ที่เกี่ยวข้อง รู้ขั้นตอนการทำงาน ความขัดแย้งในการทำงานเป็นเรื่องปกติ คนไม่ใช่แพทย์มองนโยบายนี้ดีกว่า แต่ถ้าขัดหลักการแพทย์ เราก็ขัดแย้งบนโต๊ะทำงาน สุดท้ายก็หาทางออกร่วมกันทุกครั้ง แต่ยืนยันว่าไม่มีการกระทบกระทั่งกันส่วนบุคคล

“วันนี้ทะเลาะกันแทบตายเพราะเห็นต่างกัน สุดท้ายก็มีทางออก แล้วเราก็คุยกันใหม่ เมื่อเห็นพ้องกัน แต่อีก 2 วันก็เห็นต่างกันอีก เราก็มาคุยกันใหม่อีก แต่ไม่มีการเห็นต่างแล้วเตะขัดขากัน” นายอนุทิน กล่าว

ที่มา MATICHON