จากกรณี 2 วัยรุ่น ใช้อาวุธมีด จี้ปลดเข็มพระเกี้ยวติดหน้าอกเสื้อ สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนบดินทรเดชา เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีกล้องบันทึกภาพหน้ารถยนต์จับภาพวัยรุ่นชายสองคนที่ก่อเหตุไว้ได้ คนหนึ่งสวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาว สวมหมวกแก็ป และอีกคนสวมเสื้อสีดำลายขาว กางเกงขาสั้นสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ยืนอยู่บริเวณริมทางเท้า จากนั้นก็มีกลุ่มเด็กนักเรียนเดินมาด้วยกัน 4 คน ถูกวัยรุ่นชายคนที่สวมหมวกกันน็อกเดินเข้ามา พร้อมคว้ามีดพกจากด้านหลังแทงไปที่บริเวณใบหน้าของหนึ่งในกลุ่มนักเรียน แต่นักเรียนคนดังกล่าวพยายามใช้มือป้องกันตนเอง ทำให้ไม่สามารถแทงมีดเข้ามาได้ ในขณะที่เพื่อนวัยรุ่นพยายามช่วย และใช้มือต่อยไปที่บริเวณใบหน้าของนักเรียนคนดังกล่าวแล้วรีบวิ่งหนีไป คาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นการชิงทรัพย์ นั่นคือเข็มตราสัญลักษณ์พระเกี้ยว
สำหรับเหตุการณ์อยู่บริเวณด้านหลังห่างจากประตูทางเข้าโรงเรียนไปประมาณ 500 เมตร ซึ่วเป็นทางสัญจรเข้าออกภายในซอยรามคำแหง 43/1
ทั้งนี้ จากการสัมภาษณ์เด็กนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 (ไม่อยู่ในจุดเกิดเหตุ) เล่าว่าหลังจากที่เมื่อวานตนกลับบ้าน ทราบข่าวว่าเพื่อนถูกวัยรุ่นข้างนอกดักทำร้ายร่างกาย พยายามที่จะขโมยตราสัญลักษณ์โรงเรียน โดยการใช้มีดจี้แทงข่มขู่ ตนเองรู้สึกตกใจและรู้สึกอันตรายมาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุห่างจากโรงเรียนเพียง 500 เมตร ไม่คิดว่ากลุ่มวัยรุ่นจะกล้ามาก่อเหตุอุกอาจแบบนี้
โดยเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ผ่ายมาเมื่อเดือนที่แล้วมีกลุ่มนักเรียน ม.6 จำนวน 6 คนไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นชุดไปรเวททำร้ายร่างกาย เพื่อหวังจะชิงตราสัญลักษณ์โรงเรียนมาแล้ว ซึ่งเหตุแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นใกล้โรงเรียน ตนเองรู้สึกว่าอยากให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยตรวจดูบริเวณหน้าโรงเรียน
ด้าน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทร์เดชา (ไม่ใช่ผู้ปกครองของเด็ก 4 คน ที่อยู่ในคลิป) เปิดเผยว่า ปกติแล้วตนเองจะมาส่งและรับลูกทุกวัน มาทราบข่าวเห็นคลิปวิดีโอก็รู้สึกอันตรายเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นบริเวณโรงเรียน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเคยเป็นจุดเตือนภัย แต่ก็ยังเป็นเส้นทางกลับบ้านของเด็กนักเรียนเหมือนกัน ซึ่งจะมีท่าเรือ พอเห็นคลิปตนเองไม่กล้าให้ลูกเดินออกห่างจากโรงเรียนเลย ต้องส่งลูกให้ใกล้โรงเรียนที่สุด ตนเองไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ตะเกิดขึ้น ถ้าเป็นการชิงเงินยังเข้าใจ แต่นี้เป็นการชิงตราสัญลักษณ์โรงเรียน ไม่คิดว่าสังคมในสมัยนี่ยังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่ อยากให้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุคิดนิดนึงว่า หากตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง ตนเองจะรู้สึกอย่างไร พ่อแม่ของตนเองจะเป็นห่วงมากน้อยแค่ไหน
ด้าน นายสุพัฒ อัตจริต รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานบุคคล หลักจากทราบเรื่องทางโรงเรียนได้ประสานงานทางสำนักงานเขต สน.วังทองหลาง เพื่อมาประชุมหารือเพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจุดที่เกิดเหตุไม่ใช่จุดเปลี่ยว เป็นจุดที่ติดกับรั้วโรงเรียนพอดี ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นได้ ซึ่งเป็นการชิงตราสัญลักษณ์ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่รุนแรงเนื่องจากมีอาวุธ ส่วนความประสงค์ที่แท้จริงขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะสืบหาความจริงต่อไป ตอนนี้เด็กมีอาการตกใจนิดหน่อยแต่ทุกคนมาเรียนที่โรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางโรงเรียนได้ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ปกครองให้รับทราบ และทางโรงเรียนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจตราดูแลบริเวณจุดเกิดเหตุและจุดอื่นๆบริเวณรอบโรงเรียนเพิ่มเติมในเวลาที่เด็กเลิกเรียน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น
ต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจ สน.วังทองหลาง จับกุม 3 เยาวชนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาได้แล้ว โดยทั้งหมดถูกนำตัวเข้าสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง
พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เดินทางมาที่ สน.วังทองหลางเพื่อสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า ทั้ง 3 คน เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ยังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา 2 คน และ ไม่ได้เรียนหนังสือ 1 คน โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักในย่านรามคำแหง พร้อมของกลาง อาวุธมีด รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ รวมถึงเสื้อผ้าที่ใส่ ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง
สาเหตุที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนอง อยากได้พระเกี้ยวไปห้อยกับโซ่ติดเสื้อ แต่ไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน และไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อนเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุกำลังจะไปซื้อของ แต่เมื่อขับมาใกล้กับจุดเกิดเหตุเห็นกลุ่มผู้เสียหายเดินอยู่ จึงเกิดความคึกคะนอง ลงมือทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะเอาตราพระเกี้ยว แต่ผู้เสียหายฮึดสู้ไม่ยอมให้ จึงทำให้หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงชกเข้าที่ใบหน้า ก่อนจะหลบหนีไป โดยที่ไม่ได้พระเกี้ยวไปอย่างใด ก่อนจะหลบหนีกลับไปที่บ้าน จนถูกตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมียานพาหนะ และ พยายามทำร้ายร่างกาย ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และคุมตัวส่งศาลเยาวชนต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังจากเกิดเหตุและกลายเป็นข่าว ทาง 3 เยาวชนได้ชำแหละซากรถจักรยานยนต์เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ และขณะสอบปากคำทั้ง 3 คน อยากขอโทษผู้เสียหายกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป
ที่มา : Sanook News