นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส. เต้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ผับ เมาน์เทน บี หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันเสาร์ (6 ส.ค.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยได้เข้าตรวจดูที่เกิดเหตุ พร้อมพูดคุยกับพนักงานสอบสวนเพื่อเสนอแนะแนวทางการสอบสวน ก่อนเดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ ที่เทศบาลตำบลพลูตาหลวง

ส.ส. เต้ กล่าวว่า วันนี้ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาการผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธร (สภ.) พลูตาหลวง หลังต้องมารับผิดชอบเมื่อมีการสั่งย้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว คาดว่าพื้นที่แห่งนี้มีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เยอะ

นายมงคลกิตติ์ ตั้งคำถามถึงเทศบาลเมืองสัตหีบว่า ผับแห่งนี้มันสร้างถูกต้องหรือไม่ มีการอนุญาตให้เปิดได้อย่างไร และจะโดนเอาผิดฐานละเมิดประมวงกฎหมายอาญามาตรา 157 เกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่างไร และต้องให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เข้ามาดูเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งต้องไล่มาจากตัวผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

นางมงคลกิตติ์ ให้ความเห็นต่อไปว่า นอกจากนี้ต้องสอบกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงทหาร เพราะดูว่าที่นี้เป็นพื้นที่ด้านความมั่นคง และอีกอย่างหนึ่งคือประเด็นเรื่องการก่อสร้างผิดสเปกแล้วก็เปิดขออนุญาตแบบหนึ่ง แล้วก็ไปใช้อีกแบบหนึ่ง แล้วมีการจ่ายส่วยกัน กรณีนี้ไม่ได้บอกว่าที่นี่แต่มีอยู่ทั่วประเทศ มีทุกพื้นที่ที่

ส.ส. รายนี้ เผยว่า ที่ผ่านมาตนเองเป็นคนเสนอให้นายกรัฐมนตรี เปิดให้สถานบันเทิงเปิดทำงาน 23:00 น. แล้วก็ขยับมาเที่ยงคืนจนมาถึง 02.00 น. และ 04.00 น. ซึ่งเรื่องการเปิด-ปิดสถานบันเทิงให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยที่จ่ายเป็นภาษีแทนไม่ต้องจ่ายส่วย

ไม่ใช่แค่นั้น นายมงคลกิตติ์ เห็นว่าจะต้องปรับปรุง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันภัย ระบบเตือนภัย ระบบดับเพลิง ระบบทุกอย่างปกติหมดแล้วก็มีคนดูแลโดยเฉพาะเทศบาล ต้องเป็นคนดูแลที่ต้องเป็นเจ้าพนักงานตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ด้วย เพราะถ้าหากทุกคนทำตามหน้าที่คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าทุกคนปล่อยให้มีปัญหาก็ต้องดำเนินต่อไปในการแก้ไข และถ้าทำอย่างถูกต้องและปลอดภัยจะเปิดถึง 05.00 น. ก็คงไม่เป็นไร เมื่อมีการควบคุมให้ถูกต้อง

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับ เมาน์เทน บี เมื่อเวลา 01.00 วันศุกร์ (5 ส.ค.) ขณะที่มีนักท่องเที่ยวราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั้งตัวอาคาร เนื่องจากหลังคามีการฉีดพ่นโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศและทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างรุน แรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 37 ราย

ที่มา : Sanook News