การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที 37 “พัทลุงเกมส์” เมื่อวันที่ 8 ส.ค. เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ไฮไลต์อยู่ที่ กรีฑา วิ่ง 4×100 เมตร ชาย สุราษฎร์ธานี ที่ประกอบด้วย ทิวากร แซ่บ่าง, เมฆินทร์ สุขอุ่น, พีรภัทร พลจร และอมรินทร์ กุลเพ็ง คว้าเหรียญทอง ด้วยเวลา 41.35 วินาที ถือเป็นการกลับมาทวงแชมป์ อีกครั้ง หลังในบุรีรัมย์เกมส์ พลาดไป

หลังการแข่งขัน ทีมไต้ฝุ่นสุราษฎร์ฯ เผยพร้อมกันว่า ดีใจที่คว้าเหรียญทองสำเร็จ เพราะบางคนเป็นปีสุดท้ายที่ลงเล่นกีฬาเยาวชน อีกทั้งก่อนมาพวกเรายังติดโควิด-19 กันยกทีม เพิ่งหายได้สัปดาห์เดียวเอง บางคนยังมีอาการข้างเคียง ทั้งไอ เหนื่อยง่าย มีเสมหะ อยู่เลย ตอนซ้อมก็ทำเวลาได้เพียง 42 วินาทีเท่านั้น จึงภูมิใจกันมาก เป้าหมายก็หวังจะไปติดทีมชาติกันให้ได้

ส่วนวิ่ง 4×100 เมตรหญิง กทม. ที่ประกอบด้วย ภัทรวดี ไชยเพชร, ภัทราภรณ์ เดชานนท์, วิลาสิณี จงจิตต์, กฤษณา กล้าจริง เข้าเส้นทีมแรกด้วยเวลา 47.45 วินาที เป็นการกลับมาคว้าแชมป์ของ กทม. ในรอบหลายปี

ส่วนทอง ประเภทอื่นๆ พุ่งแหลน หญิง ปริยกร มาศแท้ จากลำปาง 37.11 เมตร, เขย่งก้าวกระโดด หญิง ปาณิสรา เจษฎางค์กูร ณ อยุธยา จากกทม. 11.79 เมตร, กระโดดค้ำ ชาย,
วิ่งข้ามรั้ว 110 เมตร ชาย เดชอุดม สุวรรณชัยรบ จากอ่างทอง 14.28 วินาที, วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร หญิง ตรีชฎา ก้อนทอง จากสุราษฎร์ธานี 15.73 วินาที, วิ่ง 1,500 เมตร หญิง ปิยาพัชร พงศาปาน จากนครศรีธรรมราช 4.52.97 นาที, วิ่ง 1,500 เมตร ชาย พงษ์สุรเชษฐ์ วงศ์ไชย จากพะเยา 4.05.11 นาที

ตะกร้อ ชิงชัย 2 เหรียญในประเภท ทีมชุด โดยทีมชุดชาย นครปฐม ที่เป็นแชมป์มา 2 สมัยติด ยังคงความยอดเยี่ยมเฉือนชนะ มหาสารคาม 2-1 ทีม ป้องกันแชมป์ ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

ส่วนทีมชุดหญิง ราชบุรี ก็เฉือนชนะ นนทบุรี 2-1 ทีม คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ

หลังการแข่งขัน นายจักรี พ่วงเจริญ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเซปักตะกร้อชายนครปฐม กล่าวว่า ภูมิใจกับความสำเร็จของทีมที่เตรียมตัวมาอย่างดี ทำให้คว้าแชมป์ทีมเดี่ยวสมัยที่ 5 และยังคว้าแชมป์ทีมชุดสมัยที่ 3 ได้อีก ในส่วนของการแข่งขันอาจจะอึดอัดบ้างเพราะคู่แข่งก็ฝีมือดี หลังจากนี้ก็หวังเห็นลูกศิษย์ของตัวเองติดทีมชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต

ด้าน นายศักดา เจริญภูมิ ผู้ฝึกสอนทีมเซปักตะกร้อหญิงราชบุรี เผยว่า ดีใจที่ลูกทีมคว้าเหรียญทองมาครองได้อีกครั้ง และยังมีนักกีฬาที่น่าจับตามองว่าจะไปสร้างชื่อเสียงให้กับทีมชาติไทย อย่าง วรรณวรางค์ ทองสงฆ์ และ ลลิตา ชื่นจิตติ โดยในปีหน้าก็อยากจะฝากทุกทีมให้ระวังราชบุรีเอาไว้ให้ดี เพราะจะมาคว้าเหรียญทองสมัยที่ 5 ให้ได้

สมุทรสาครเหมายิมลีลา

ยิมนาสติกลีลา ชิง 4 ทอง สมุทรสาคร เหมาทั้งหมด จากผลงานของ ณัชชนม์ โสภณวชิราพร ในประเภทอุปกรณ์ ห่วง ทำคะแนน 24.45 และประเภทอุปกรณ์บอล 25.1 คะแนน เก็บคนเดียว 2 เหรียญทอง เช่นเดียวกับ พรรษพร ทับทอง ดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย ที่เก็บคนเดียว 2 ทอง จาก อุปกรณ์ คฑา 26 คะแนน และอุปกรณ์ริบบิ้น 23.6 คะแนน

ส่วนบาสเกตบอล รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชาย นครราชสีมา เอาชนะ ชลบุรี 74-59 คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนประเภททีมหญิง เชียงใหม่ เอาชนะ กทม.55-43 คว้าเหรียญทอง

สรุปเหรียญรางวัล 18.00 น. ทัพเมืองหลวง กทม. คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเรียบร้อยแล้ว เป็นสมัยที่ 32 และเป็นครั้งที่ 26 ติดต่อกัน แม้จะเหลือการชิงชัยอยู่อีก 45 เหรียญทองในวันสุดท้าย โดย กทม. เก็บไปแล้ว 121 ทอง 89 เงิน 83 ทองแดง ทิ้งห่างชลบุรี อันดับ 2 ที่มี 58 ทอง 40 เงิน 46 ทองแดง
ส่วนอันดับ 3 เชียงใหม่ 43 ทอง 36 เงิน 39 ทองแดง อันดับ 4 ศรีสะเกษ 25 ทอง 18 เงิน 36 ทองแดง อันดับ 5 สมุทรสาคร 24 ทอง 20 เงิน 19 ทองแดง ขณะที่ พัทลุง เจ้าภาพ รั้งอันดับ 14 มี 14 ทอง 13 เงิน 18 ทองแดง

สำหรับพิธีปิดการแข่งขัน พัทลุงเกมส์ จะมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วย “บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เข้าร่วม โดยเจ้าภาพเตรียมการแสดง วงดนตรีสากล ลูกทุ่ง จากโรงเรียนพัทลุง ไว้เปิดงาน พร้อมกับการแสดงปิดอีก 2 ชุด ในชื่อ นาฏศิลป์ ทักษิณา ตะลุง และ แลแลน้อย ก่อนจะเข้าสู่พิธีดับไฟในกระถางคบเพลิงเป็นอันสิ้นสุดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดกีฬา