กองปราบ ตามรวบอดีตนายตำรวจดัง “ครรชิต แตงจุ้ย” นรต.36 ฉ้อโกงร้านขายทอง-ร้านรับแลกเงิน พบประวัติก่อเหตุยาวเหยียด ถูกจับมาหลายแล้วครั้ง เคยพัวพันคดีอุ้มสจวร์ตหนุ่ม หรือ “เสี่ยติงนัง” จนถูกให้ออกจากราชการ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กันยายน 2565 ที่ห้องประชุมชั้นสอง อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายธารา เจริญนาคา หรือ นายครรชิต แตงจุ้ย หรือ อดีต พ.ต.ท.ครรชิต แตงจุ้ย รองผกก.จร.สน.บางรัก อายุ 62 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ 111/2565 ลงวันที่ 7 ก.ย. 65 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จับได้บริเวณภายในซอยวิภาวดี 40/2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า นายครรชิต กับพวกได้ไปติดต่อขอซื้อทองคำรูปพรรณจากร้านทอง จะชำระเงินด้วยการสั่งจ่ายเป็นเช็คธนาคาร โดยผู้ต้องหาจะขอหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไป แล้วจะออกอุบายแจ้งกับร้านทองให้ทราบว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว เมื่อร้านทองตรวจสอบไปที่ธนาคาร ในเวลาดังกล่าวปรากฏข้อมูลแจ้งว่ามีเงินเข้าบัญชีของทางร้านผู้เสียหาย ร้านทองจึงได้มอบทองคำรูปพรรณให้ไป หลังจากผู้ต้องหาออกไป ร้านทองได้ตรวจสอบพบว่าไม่มียอดเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามาในบัญชีธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งผู้ต้องหาได้อาศัยช่องว่างของการเคลียริ่งเช็คธนาคาร จะปรากฏยอดแจ้งว่ามีเงินเข้าบัญชีดังกล่าว แต่เป็นยอดเงินจากการจ่ายเช็คเคลียริ่งไม่ใช่เงินสด เป็นเหตุให้ร้านทองได้รับความเสียหาย และเข้าแจ้งความไว้กับ สภ.เมืองมุกดาหาร ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นต่อศาลเพื่อออกหมายจับไว้
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้แกะรอยติดตามตัวนายครรชิต จนพบเบาะแสว่า ได้หลบหนีคดีไปอยู่ที่บ้านดังกล่าว จึงเข้าตรวจสอบจับกุมตัวไว้ได้
จากการสอบสวนนายครรชิตให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเงินที่ได้จากการฉ้อโกงทั้งหมดถูกนำไปใช้เป็นทุนเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน และยอมรับว่าได้ใช้ความรู้จากการเป็นตำรวจเก่าไปกระทำความผิดและหลบเลี่ยงการถูกจับกุม โดยเฉพาะการเปลี่ยนชื่อและโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่มักใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุม
ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดที่เหลือ ส่วนนายครรชิต ทาง บก.ป.จะได้คุมตัวส่ง พงส.สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ นายครรชิต เป็น นรต.36 มีประวัติสำคัญเกี่ยวพันกับคดีการหายตัวไปของนายชัยรัตน์ รุ่งเรือง หรือ “เสี่ยติงนัง” สจวร์ตหนุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 50 สมัยนายครรชิต ยังดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผกก.จร.สน.บางรัก ซึ่งคดีดังกล่าวจนขณะนี้ยังไม่มีวี่แววของนายชัยรัตน์ แต่ในเวลาต่อมานายครรชิต ถูกจับกุมหลังนำรถเบนซ์ของนายชัยรัตน์ไปขายเต็นท์รถมือสอง และยังได้ร่วมกับลูกน้องที่เป็นตำรวจปลอมลายมือชื่อนายชัยรัตน์ในตั๋วแลกเงินไปขึ้นเงินกับธนาคาร โดยศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี 6 เดือน แต่หลังพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 55 นายครรชิตกับพวกได้ร่วมกันฉ้อโกงร้านทองหลายร้าน โดยใช้อุบายทำทีไปซื้อทองคำ ซึ่งอาศัยช่องว่างของการเคลียริ่งของธนาคาร ได้เงินไปหลายสิบล้านบาท ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้เมื่อปี 58 หลังพ้นโทษออกมาในปี 65 ได้ตระเวนทำความผิดอีกในลักษณะเดิมอีก ในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.มุกดาหาร จนถูกจับดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในคดีของศาลจังหวัดหนองคาย ก่อนจะถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ก่อนจะถูกจับกุมนายครรชิต ยังได้ไปก่อเหตุฉ้อโกงร้านรับแลกเงิน ย่านถนนสุรวงศ์ เขตพื้นที่ สน.บางรัก โดยใช้อุบายหลอกลวงอาศัยช่องว่างของการเคลียริ่งของธนาคารในลักษณะเดิม ได้เงินสดไปอีก 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8 แสนบาท อีกด้วย
ที่มา – ไทยรัฐ