บิ๊กป้อม เปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยเอเปค ระดม 3.5 หมื่นนาย อารักขาผู้นำเข้ม ติดตามสถานการณ์ ลั่นยอมไม่ได้หากใครคิดสร้างความเสียหาย เจอโทษหนักแน่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ย. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เป็นประธานเปิด กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องปี 2565

โดยมีคณะอนุกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. ผู้แทนเหล่าทัพ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการตำรวจทั่วประเทศ และผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง รวม 27 หน่วย เข้าร่วมรับฟังด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เป็นเปิดกองอำนวยการร่วมฯ เพื่อติดตามสถานการณ์และความพร้อมในการปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติตามแผน และให้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้รายงานความพร้อมในการปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมาย ในที่ประชุมยังพิจารณาความพร้อมด้านการจราจรและการบริหารจัดการขบวนรถ ด้านความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข และด้านความพร้อมด้านการต่อต้านการก่อการร้าย รวมถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงาน เตรียมการปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย และร่วมกันปฏิบัติงานตามแผนของกองอำนวยการร่วมฯ รวมทั้งติดตาม กำกับดูแล การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยการประชุม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด

ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า กอ.ร่วม จะประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวันในเวลา 09.00 น. โดย ตร.เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลความปลอดภัยและการจราจร โดยในด้านการบริหารจัดการดูแลการชุมนุม นายกฯ ได้ประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุม คือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โรงแรมที่พักทั้ง 19 แห่ง สถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองของผู้นำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานได้สะดวกตลอดช่วงการประชุม 14-19 พ.ย.

ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่าย แม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบสิทธิคนอื่น ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทุกรายและมีโทษหนักถึงจำคุก เราจะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไม่ได้โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี เป็นขั้นเป็นตอนตามระดับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น

หากจะมีการยื่นข้อเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดสถานที่สำหรับการยื่นหนังสือไว้แล้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศ และสถานกงสุล ที่แจ้งวัฒนะ รวมทั้งการขอให้ใช้สิทธิในการชุมนุม ขอให้ไปยื่นขอตามสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ หากมีการชุมก็ต้องมีการแจ้งการชุมนุม

ด้านการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าประจำการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.65 โดยมีการระดมกำลังตำรวจ ทั้งประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 35,000 นาย เพื่อระวังป้องกันตัวผู้นำ ตลอดจนสถานที่พัก ที่ประชุม ที่จัดงานเลี้ยงรับรอง และเส้นทางทุกสาย ที่มีขบวนรถผู้นำผ่าน

รวมทั้งระดมชุดปฏิบัติการพิเศษ สายตรวจรถยนต์ จากตำรวจภูธรภาค 1,2 และ 7 เข้ามาช่วยในพื้นที่ กทม. เพื่อช่วยเฝ้าระวังเหตุและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ครอบคลุมทุกสถานที่ 29 จุด และพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งจัดกำลังเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมายที่อาจมีความเคลื่อนไหว และบุคคลตามหมายจับ ทุกรายอีกด้วย หากมีการละเมิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที

ด้านการจราจร ที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนในช่วงที่มีการประชุม เนื่องจากจะมีการปิดถนน รัชดาภิเษก ช่วงหน้าหอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (แยกอโศกมนตรี-แยกพระรามสี่) และถนนดวงพิทักษ์ รวมถึงสถานี MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 16-19 พ.ย.65 ทั้งนี้ ยังไม่มีความกังวล เนื่องจากห้วงดังกล่าวรัฐบาลได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ และจัดให้มีรถรับส่ง shuttle bus จำนวน 6 คัน คาดว่าเพียงพอสำหรับรับส่งประชาชนที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกพิธีการคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้เต็มทุกช่องตรวจ ช่องตรวจอัตโนมัติ (Auto Chanel) และจัดชุดช่วยเหลือประชาชน นักท่องเที่ยว แนะนำช่วยเหลือในเรื่องพิธีการคนเข้าเมือง ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับกับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามามากขึ้น

รองนายกฯ กล่าวว่า ขอฝากสื่อมวลชน ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ว่า เราไม่ได้ทำงานให้กับใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาล แต่เราทำเพื่อประเทศชาติ ให้กับคนไทยทุกคน ขอให้คนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมสังเกตการณ์หากมีเหตุใดเหตุหนึ่ง ขอให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ ได้ที่สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา – ข่าวสด