ตำรวจคุม “ทรพีฆ่ายาย” ฝากขังผลัดแรก ผู้สื่อข่าวถามอ้าง เมา-จำอะไรไม่ได้ ยืนยันไม่ได้ตื้บยาย อยากขอโทษตา-ยายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับเสียใจ ด้านตำรวจเผยผู้ต้องหาสารภาพซดเหล้าเมาถูกยายบ่น ฉุนคว้าไม้ตี-กระทืบซ้ำดับ

ชาวบ้านเผยได้ยินเสียงหมาหอนก่อนยายลอยจะถูกนายอรรถพล วังคราม อายุ 28 ปี หลานชายใช้ไม้คานตี ก่อนจะกระทืบซ้ำจนเสียชีวิต เหตุเพราะไม่พอใจยายห้ามไม่ให้ขนข้าวเปลือกมาไว้ที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะนำไปขายจนหมด ขณะที่ตำรวจคุมตัวฝากขังข้อหาฆ่าบุพการี สารภาพก่อนเกิดเหตุดื่มสุราไป 2 ขวดจนเมาหนักถูกยายบ่นจึงโมโหใช้ไม้ตีกระทืบซ้ำไม่คิดว่ายายจะตาย

จากกรณีที่ นายอรรถพล ประสมพล หรือ “ออย” อายุ 28 ปี เมาเหล้าไปขอเงินยายตัวเองวัย 83 ปี แล้วใช้ไม้ตียายจนล้ม จากนั้นใช้เท้ากระทืบซ้ำจนหน้าอกยุบเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ ม.3 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางเสมียน แสงนา อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับผู้ตาย เล่าว่า ปกติตนจะตื่นมาเปิดร้านช่วงตี 3-4 ทุกวัน ก่อนวันเกิดเหตุที่ ยายลอย (ผู้ตาย) จะเสียชีวิต ช่วงนั้นเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ตอนนั้นตนกำลังชำแหละไก่สำหรับใช้ทำก๋วยเตี๋ยวขายในตอนเช้า จู่ๆก็ได้ยินเสียงหมาหอนมาแต่ไกลดังทั่วหมู่บ้านนานเกือบ 20 นาที ตอนนั้นคิดแค่ว่าหมากำลังผสมพันธุ์กัน ก็เข้านอนตามปกติ จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้า ก็ได้ยินชาวบ้านพูดให้ฟังว่า ยายลอยถูกหลานชายกระทืบเสียชีวิต สำหรับ นายออย (ผู้ก่อเหตุ) เป็นคนที่อันตรายสำหรับหมู่บ้าน เพราะเป็นคนค่อนข้างดุร้ายเกเร ชอบก่อความวุ่นวายในหมู่บ้าน ขับรถแว้นไปมาจนชาวบ้านเอือมระอา ตนอยากให้ตำรวจจับขังนานๆ แต่ก็กลัวว่าถ้าออกมาจะมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้คุมตัว นายอรรถพล วังคราม หรือนายออย (ผู้ต้องหา) ขึ้นรถควบคุมตัวนำไปฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถาม นายออย ทราบว่า วันที่เกิดเหตุนายออยได้ดื่มสุราอย่างหนัก จนจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ รู้แค่ว่าจะไปทุ่งนาไปหาตากับยาย จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย ยืนยันว่าไม่ได้กระทืบยาย และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษตาและยาย ไม่คิดว่ายายจะเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุดื่มสุราไป 2 ขวด จึงถูกผู้ตายบ่นจนเกิดอารมณ์โมโห เลยใช้ไม้คานตีแล้วกระทืบช้ำๆไปที่หน้าอกและแขน จนทำให้ผู้เป็นยายเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องไปตรวจปัสสาวะ ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้บุพการี” และนำตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตนั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ได้ส่งไปชันสูตรต่อที่ รพ.ศรีนครินทร์ และจะมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ที่มา – ไทยรัฐ