นายกฯย้ำ ครม.อยู่ต่อจนครบเทอม ขอทุกฝ่ายช่วยกันทำให้ประเทศสงบ ไม่วุ่นวาย ฝ่ายค้านแตกคอแก้รัฐธรรมนูญ ก้าวไกลระแวงร่าง พท.จำกัดอำนาจ ส.ส.ร.แตะหมวด 1 และ 2 “พิธา” แถลงจุดยืนไม่ร่วมลงชื่อร่างแก้ไข ม.256 เตือนอย่าเดินตามเกม พปชร.ต่ออายุระบอบประยุทธ์ “ปิยบุตร” จับไต๋พรรครัฐบาลกับฝ่ายค้านบางพรรคเล่นละครตบตา มุ่งแก้ระบบเลือกตั้งเปิดทาง “บิ๊กตู่” สืบทอดอำนาจ “ธนาธร” ผนึกกำลังกลุ่ม “Re-Solution” ตั้งโต๊ะล่าคนละชื่อชงร่าง รธน.ฉบับประชาชน “ประเสริฐ-ชลน่าน” ไม่ติดใจเห็นต่าง มั่นใจเคลียร์ปมคาใจกันได้ “ไพบูลย์” เสี้ยมฝ่ายค้านแตกโพละ หยัน กก.ขาสั่นกลัวสูญพันธุ์ “ชวน” เคาะเดินตามคิวถกร่าง รธน.หลัง พ.ร.บ.ประชามติ
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประกาศกลางที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ยืนยันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ ไม่มีการยุบสภาฯล่าสุดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯยังคงตอกย้ำต่อที่ประชุม ครม.ว่าจะทำหน้าที่ร่วมกับ ครม.ชุดปัจจุบันเต็มความสามารถ
นายกฯปลื้มปริ่มชิมทุเรียนภูเขาไฟ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก่อนการประชุมที่ห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พร้อม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกฯ ตัวแทน จ.ศรีสะเกษ เข้าพบนายกฯประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ พันธุ์ “ศรีสะเกษ 238 ปี” ที่ได้รับรองเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) แล้ว สั่งซื้อโดยตรงผ่านเว็บไซต์ www.lavadurian.com โดยมอบทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษให้นายกฯชิมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี พร้อมเอ่ยปากชมว่าชอบมานาน รสชาติดี หวานมัน พูสวย เนื้อสุกขนาดพอดีกิน ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
รบ.มุ่งมั่นแก้ทุกปัญหา
ต่อมาเวลา 12.40 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯได้กล่าวช่วงท้ายการแถลงข่าวภายหลังประชุม ครม.ผ่านไลฟ์เพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าว่าขอเน้นย้ำว่า ตน รัฐบาลและ ครม.ทุกคนยังมุ่งมั่นเต็มที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากวิกฤติโควิด-19 เราจัดการแก้ปัญหาได้อย่างดีในระดับต้นๆของโลก และมีการวางแผนเตรียมพร้อมประเทศเป็นอย่างดีทั้งด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง ให้พ้นจากความยากจน ทุกอย่างต้องทำประกอบกัน มัวสาละวนกับโควิดอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องเตรียมประเทศในการลงทุนและสิ่งต่างๆ ในอนาคตควบคู่กัน ยืนยันเรื่องทุจริตต่างๆได้สั่งให้ตรวจสอบทุกเรื่อง เรื่องใดที่เสนอมายังสำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) ต้องสอบสวน หลายเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนหน้ารัฐบาลตน แต่ตรวจสอบตามกฎหมาย ละเว้นใครไม่ได้อยู่แล้ว หลายอย่างรัฐบาลจำเป็นต้องทำไปในช่วงเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญต้องไม่มีการทุจริตเด็ดขาด ขอให้ทุกคนมีความสุขปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด และช่วยกันทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบ ไม่วุ่นวาย เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ยังมีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นมานาน การแก้ไขต้องใช้เวลามากพอสมควร แต่ยืนยันจะทำทุกอย่างให้ประชาชนดีที่สุด
ยันอยู่ทำหน้าที่กับ ครม.เต็มที่
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯได้กำชับที่ประชุม ครม.เรื่องการใช้เงินกู้ 5 แสนล้านบาท โดยจะต้องดำเนินการโดยปราศจากการทุจริตและเป็นไปอย่างโปร่งใส และขอให้ทุกกระทรวงกำชับให้การนำเงินไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เมื่อถามว่านายกฯระบุจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มสร้างคะแนนนิยมเตรียมการเลือกตั้งแล้ว นายอนุชากล่าวว่า นายกฯยืนยันจะทำหน้าที่ร่วมกับ ครม.ชุดปัจจุบันเต็มความสามารถ จะทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ ยังมีงบฯปี 2565 และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากมีประเด็นใดให้ผู้เกี่ยวข้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจเร็วที่สุด นายกฯยังได้ขอบคุณหน่วยงาน และกระทรวงที่ได้จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ที่นายกฯให้ความสำคัญต่อการชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่อาจมีการบิดเบือน ทำให้สับสน เข้าใจผิด ให้แต่ละกระทรวงชี้แจงให้ชัดเจนทันสถานการณ์
“วิษณุ” ชี้แก้ ม.256 ไม่แย้งศาล รธน.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าการแก้มาตราดังกล่าวให้มี ส.ส.ร.ต้องทำประชามติก่อนว่า ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร คนละเรื่องกัน กระบวนการแก้ไขมาตรา 256 มี 3 วาระ ต้องทิ้งระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ร่าง พ.ร.บ.ประชามติเหลืออีกไม่กี่มาตราจะเสร็จขั้นตอนรัฐสภา ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ กว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถึงขั้นตอนทำประชามติต้องใช้เวลา คาดว่าจะไปบรรจบกันพอดี การที่ฝ่ายค้านจะยื่นมาตราดังกล่าวจึงไม่ถือว่าขัดแย้งกับคำพิพากษา
“ชวน” เคาะถกร่าง รธน.หลัง 2 ก.ม.ค้าง
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ และร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดที่ค้างวาระว่า กำหนดประชุม 3 วันตั้งแต่วันที่ 22-24 มิ.ย. วันที่ 22 มิ.ย. จะพิจารณากฎหมายที่ค้างวาระประชุม 2 ฉบับวันที่ 23 มิ.ย.จะพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาไว้ช่วงหลังการประชุมเพราะเผื่อเวลาให้แต่ละฝ่ายเตรียมความพร้อม ตรวจร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ถูกต้อง ไม่ให้เกิดข้อบกพร่องเสียเวลา หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จพิจารณาต่อวันที่ 24 มิ.ย.ได้ ส่วนกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลพยายามเสนอให้พิจารณาญัตติแก้รัฐธรรมนูญก่อน ประธานเป็นผู้จัดวาระประชุมให้ทุกฝ่ายเตรียมตัว จึงเอาญัตติแก้รัฐธรรมนูญไว้ทีหลัง ยืนยันว่ากฎหมายที่ค้างอยู่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ เมื่อได้ข้อสรุปการหารืออย่างไรต้องปฏิบัติตามนั้น
ไม่ต้องห่วงถ่วง ก.ม.ประชามติไม่ได้
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านกลัวว่าจะเตะถ่วงการพิจารณา พ.ร.บ.ประชามติ นายชวนตอบว่า ต้องพิจารณาอยู่แล้วเตะถ่วงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นกฎหมายอื่นจะเข้ามาพิจารณาไม่ได้หากยังมีกฎหมายค้างอยู่ รัฐบาลเสนอเลื่อนพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญเร็วขึ้นมาวันเดียวก็ไม่มีประโยชน์ ให้ทุกฝ่ายพร้อมดีกว่า ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญวันที่ 16 มิ.ย. และร่างพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค รวมทั้งยังมีภาคประชาชนประสานขอยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาด้วย หากยื่นทันจะบรรจุระเบียบวาระการประชุมเดียวกันได้
ฝ่ายค้านยื่น 5 ร่างแก้ไข รธน.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดเผยหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาวันที่ 16 มิ.ย. ทั้งหมด 5 ร่าง แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือร่างที่ทุกพรรคเห็นร่วมกันเสนอคือร่างแก้ไขที่มานายกฯและตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกฯตามมาตรา 272 ส่วนร่างที่เหลือ เป็นร่างของพรรคเพื่อไทยหากพรรคใดเห็นชอบร่วมลงชื่อได้ เรายืนยันเจตนารมณ์เดิมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อให้รัฐธรรมนูญแก้ไขได้ง่ายขึ้นและยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ และยังเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพประชาชน ยกเลิกอำนาจ สว.มาตราอื่นๆ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ยกเลิกมาตรา 279 ยกเลิกการนิรโทษกรรมของ คสช.
พท.ไม่ติดใจ กก.ไม่ลงชื่อบางประเด็น
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่ติดใจที่พรรคก้าวไกลไม่ร่วมลงชื่อร่างแก้ไขประเด็นอื่น ต้องแล้วแต่วิธีคิดและการดำเนินการของแต่ละพรรค ไม่ถือเป็นความแตกแยกในพรรคร่วมฝ่ายค้านเพราะที่ผ่านมาหลายเรื่องไม่ค่อยตรงกันอยู่แล้ว แต่จะพยายามให้ตรงกันในเรื่องสำคัญ พรรคเพื่อไทยยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 ผลักดันให้ทำประชามติใช้ร่างนี้เป็นสารตั้งต้นให้รัฐสภามีการประชุมจะออกมติว่าจะทำประชามติหรือไม่แต่พรรคก้าวไกลหวังรอร่าง พ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้วค่อยเสนอให้สภาฯทำประชามติยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 ในขั้นตอนนี้หากวุฒิสภาและคณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบก็เดินหน้าต่อไม่ได้ เสียงในสภาเราไม่ชนะอยู่แล้ว จะอาศัยกระแสกดดันจากภายนอกยากมาก รอ พ.ร.บ.ประชามติเห็นชัดไม่น่าผ่าน ส.ว.ที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 ไปทำรัฐธรรมนูญ
มั่นใจวาระ 2 เคลียร์ปมคาใจกันได้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐธรรมนูญ ปี 60 คือปัญหาประเทศแท้จริง จำเป็นต้องยึดหลักแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ พร้อมกับแก้ไขบางมาตราที่จำเป็น เมื่อถามว่ามีหลายประเด็นฝ่ายค้านเห็นไม่ตรงกันจะกระทบต่อการทำงานร่วมกันหรือไม่ และจะมีเสียงพอในการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่าเรื่องนี้พูดคุยกันแล้วในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน บางเรื่องอาจเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่การแก้รัฐธรรมนูญเมื่อเข้าสู่วาระการพิจารณาแล้ว ยังมีกระบวนการรัฐธรรมนูญที่จะหล่อหลอมประเด็นไม่ตรงกันให้ทำความเข้าใจวาระ 2 เพิ่มเติมได้อีก
ฉะ พปชร.ทำเพื่อ “บิ๊กตู่” เมิน ปชช.
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอพรรคพลังประชารัฐแก้ไขเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย การไม่แตะอำนาจ ส.ว.เจตนาชัดเจนต้องการเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.โหวตนายกฯครั้งหน้า ดังนั้นฝ่ายค้านต้องการแก้มาตรา 272 สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน นายกฯต้องมาจากเสียงประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ไม่ควรล็อกตำแหน่งให้ใครคนใดคนหนึ่ง
“พิธา” ไม่เดินตามเกม พปชร.ต่ออายุ “ตู่”
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงจุดยืน ส.ส.พรรคก้าวไกลต่อการแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุม ส.ส.ก้าวไกลมีมติดังนี้ 1.หนทางที่ดีที่สุดคือยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 60 แล้วจัดทำฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.จากการเลือกตั้งโดยตรง พรรคขอคัดค้านหากประธานรัฐสภาจะเตะถ่วงร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ค้างอยู่และนำวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราขึ้นมาพิจารณาก่อนตามความต้องการของพรรค พปชร. 2.การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของ พปชร.หลายมาตราเบี่ยงเบนเป้าหมายจริงคือต่ออายุให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯต่อ 3.การแก้ไขตามเกมของพลังประชารัฐ มีแต่จะช่วยตกแต่งรัฐธรรมนูญ คสช.ให้ดูดี ต่ออายุให้ระบอบพล.อ.ประยุทธ์ ควรพุ่งเป้าชัดปลดกลไกสำคัญสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร จึงเสนอให้ปิดสวิตช์ ส.ว. ยกเลิกอำนาจเลือกนายกฯ ของ ส.ว. ส.ส.ก้าวไกลจะร่วมลงชื่อกับพรรคฝ่ายค้าน
ไม่เอาด้วยห้าม ส.ส.ร.เเตะหมวด1–2
นายพิธากล่าวอีกว่า 4.ที่ประชุม ส.ส.ก้าวไกล มีมติไม่ร่วมลงชื่อกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพท.ที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.เราไม่เห็นด้วยที่ไปจำกัดอำนาจ ส.ส.ร. ห้ามแก้ไขหมวด 1 และ 2 จะสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ผิด ส่งผลเสียต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระยะยาว ไม่เคารพอำนาจประชาชน เชื่อมั่นว่า ส.ส.ร.จากประชาชนมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทุกหมวด 5.ระบบการเลือกตั้งที่ดีควรจัดสรรปันส่วนผสม ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบนำคะแนนเลือกพรรคมาคำนวณเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพื่อให้เสียงประชาชนไม่ตกน้ำให้ได้สัดส่วน ส.ส.ตามเจตนารมณ์ประชาชนมากที่สุด ทุกเสียงต้องถูกนับ วิเคราะห์แล้วคิดว่าไม่มีเสียงของประชาชนตกน้ำคือระบบของเยอรมนี
“ไพบูลย์” เย้ย กก.ตาตื่นกลัวสูญพันธุ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคก้าว–ไกลระบุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พปชร.สืบทอดอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ไม่เป็นความจริงการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นประเด็นเห็นพ้องต้องกันกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก้าวไกลไม่เห็นด้วยกังวลว่าจะสูญพันธุ์ ฝ่ายค้านแตกแยกกันเอง มั่นใจว่าร่างของ พปชร.จะผ่านความเห็นชอบวาระรับหลักการในวันที่ 23-24 มิ.ย. มีเสียงพปชร. 122 ส.ส. หรือรวมประชาธิปัตย์อีก 50 เสียงและ ส.ว. 250 รวมแล้วมากกว่า 400 เสียง หากพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยก็เกิน 500 เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา และให้ ส.ว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคนละเรื่องกับการยุบสภา เชื่อว่านายกฯจะยังไม่ลาออกหรือยุบสภาตามที่ได้ประกาศไว้ในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.
เปลี่ยนเลขาฯ พปชร. 18 มิ.ย.รู้เรื่อง
นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประชุมใหญ่พรรค พปชร.วันที่ 18 มิ.ย.ว่า คงเป็นวาระธรรมดาทั่วไป รับรองรายงานการประชุม รายงานผลการดำเนินการของพรรคช่วงสิ้นปี งบดุล มีเท่านั้น จะปรับโครงสร้างพรรคหรือไม่ยังไม่ได้ยิน เรื่องภายในยังไม่มีอะไร จะปรับหรือไม่ปรับเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีอะไร พรรคต้องดำเนินกิจการของพรรคต่อไป
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า จะมีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคจะพูดคุยกันและแจ้งในที่ประชุมเลย เวลานี้ยังตอบไม่ได้ว่ามีวาระปรับเปลี่ยนเลขาธิการพรรคหรือไม่ รอวันประชุมดีที่สุด รู้เรื่องเลย
“จุรินทร์” ดันรื้อกติกาจนสุดทาง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาธิปัตย์ 6 ร่าง และร่างภูมิใจไทยอีก 1 ร่าง รวม 7 ร่าง ได้หารือกันเบื้องต้นแล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะยื่นต่อประธานรัฐสภาได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่ต้องการแก้ไขให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ประเด็นใดเห็นตรงกันก็สนับสนุนกันและกัน ประเด็นใดเห็นไม่ตรงกันแต่ละพรรคย่อมมีสิทธิจะลงมติอย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะเดินหน้าทำหน้าที่จนนาทีสุดท้ายในแต่ละกรณีแต่ละประเด็นและไปจนสุดทาง เมื่อถามว่าฝ่ายค้านเสนอให้พิจารณา พ.ร.บ.ประชามติก่อนแก้รัฐธรรมนูญ เพราะกังวลว่าจะโหวตไม่ผ่าน ทำให้ไม่ได้รับการแก้ไข นายจุรินทร์กล่าวว่า เชื่อว่า พ.ร.บ.ประชามติผ่าน ไม่เห็นเหตุอะไรที่จะไม่ผ่าน ถ้าไม่มีกฎหมายประชามติก็แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ทุกคนทราบดีอยู่แล้วพรรคประชาธิปัตย์พร้อมยกมือสนับสนุนเต็มที่
ยังเติร์ก ปชป.ปูพรมลุยฟื้นฐานเสียง
ช่วงสายที่ สน.มีนบุรี เขตมีนบุรี และลานอเนกประสงค์เคหะชุมชนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง น.ส.จิตภัสร์ ตั๊นกฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อดีต ส.ก อดีต ส.ข. และประธานสาขาพรรคในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้งให้ประชาชนในพื้นที่เขตมีนบุรีและลาดกระบัง บรรเทาทุกข์จากผลกระทบโควิด-19 โดย น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า หัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้กำชับสมาชิกพรรคเร่งระดมลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทุกรูปแบบ พื้นที่ กทม.พรรคได้วางตัวบุคคลที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งทั้ง ส.ส.และ ส.ก.คืบหน้าไปมากแล้ว เลขาธิการพรรคเน้นย้ำให้ ส.ส.เกาะติดลงพื้นที่ดูแลประชาชน และมอบหมายให้ตนร่วมกับผู้เกี่ยวข้องคัดสรรบุคคลที่คุณสมบัติเหมาะสม มีศักยภาพและเต็มใจอาสารับใช้ประชาชนไว้แล้วไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด เราพร้อมเต็มที่จะลงสู้ศึกในทุกสนามเลือกตั้ง โดยเฉพาะสนาม กทม.ที่ชาว กทม.ไว้วางใจมาตลอด
ล่าชื่อชงล้มวุฒิสภา-โละองค์กรอิสระ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ กทม.กลุ่ม “Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่”แถลงข่าวการเข้าชื่อประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ พร้อมยื่นผู้เชิญชวน 20 คนแรกต่อสภาฯดันร่างของประชาชนเป็นร่างหลักในสภาฯ อย่าปล่อยให้ร่างพรรคใหญ่ลอยนวลรวบหัวรวบหางสืบทอดอำนาจภาค 2 มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ตัวแทนกลุ่ม Re-Solution อาทิ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มราษฎร ร่วมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา คือ 1.ล้มวุฒิสภาเดินหน้าสภาเดี่ยว 2.โละศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ปฏิรูปที่มาอำนาจ การตรวจสอบ 3.เลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนปฏิรูป ปลดโซ่ตรวนอนาคตประเทศ และ 4.ล้างมรดกรัฐประหาร หยุดวงจรอุบาทว์ขวางประชาธิปไตย
ฉะต้มตุ๋นแบก “บิ๊กตู่” สืบอำนาจ
นายปิยบุตรกล่าวว่า พรรคใหญ่เสนอแก้รายมาตรารอบนี้เล่นละครตบตา ปาหี่ราวกับว่าจะทำใหม่ทั้งฉบับเกิดขึ้นไม่ได้เลย จึงเสนอแก้รายมาตรารีบกันจนจะแซงคิวร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ผิดปกติชัดเจน ที่นักการเมืองบางกลุ่ม สมาชิกรัฐสภาบางพวกกำลังรวมหัวกันต้มประชาชน ประธานรัฐสภาจึงสำคัญยิ่ง ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรคต้องการเน้นไปที่ระบบเลือกตั้ง เรื่องอื่นเป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่ง การแก้ระบบเลือกตั้งครั้งนี้จะมีโอกาสสำเร็จด้วย เปิดทางให้ระบอบประยุทธ์ ได้สืบทอดอำนาจอีกรอบ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาหลอกต้มประชาชน
นายธนาธรกล่าวว่า 1 เสียงของท่านมีความหมายร่วมกันกดดัน ส่งเสียงดังๆว่าเราไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์อีกแล้ว ขอพลังพ่อแม่พี่น้องและสื่อมวลชนทุกท่าน จะเป็นพลังค้ำจุนให้ร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนได้เข้าไปอยู่ในสภาฯ
“มายด์” ชวนร่วมขจัดนายพลเกษียณ
น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่าทุกคนต้องส่งเสียงเรียกร้องเข้าชื่อและผลักดันร่างแก้รัฐธรรมนูญของประชาชนให้เป็นร่างหลักในสภา ป้องกันไม่ให้นายพลเกษียณที่ยึดอำนาจมา พ่อค้าแป้งหรือคนที่ระบอบนี้ส่งมาเป็นนายกฯ ให้มาเป็นผู้นำปกครองพวกเรา ต้องทำเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศนี้ โครงสร้างเหลื่อมล้ำที่คน 1% สะดวกสบาย แต่คนอีก 99% ต้องลำบากต้องหมดไปเสียที
“ไทยไม่ทน” นัดไล่ “บิ๊กตู่” 24 มิ.ย.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย #กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ยื่นหนังสือ “บันทึกความล้มเหลว” ถึงนายกฯผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ มีเนื้อหาตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาล 17 ข้อ อาทิ การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน หลอกลวงประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้ระบบเผด็จการรัฐสภาแก้ไขรายมาตราที่ได้ประโยชน์ นายจตุพรกล่าวว่า ที่ผ่านมากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เอาจริง ที่บอกจะอยู่จนครบ วาระ เชื่อถือไม่ได้ ประกาศยิ่งไล่ยิ่งสู้ ได้สู้แน่ แต่จะสู้ไหวหรือไม่ให้รอดูวันที่ 24 มิ.ย. พวกตนจะมาที่ทำเนียบฯขับไล่ระบอบประยุทธ์
“กวิ้น” อ่วม ปอท.ไล่บี้คดีหมิ่นสถาบัน
เมื่อเวลา 10.50 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบ ร.ต.อ.หญิงรัฐฐานนท์ คชนนท์ รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.รับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 ตามที่นายนพดล พรหมภาสิต เลขาศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์หรือ ศชอ.แจ้งความกรณีนายพริษฐ์โพสต์ข้อความ 2 เหตุการณ์ มีข้อความกล่าวหาดูหมิ่นหรือหมิ่นเบื้องสูง จากทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก เบื้องต้นนายพริษฐ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา ขอให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสารและขอให้พนักงานสอบสวนเรียกพยานบุคคลมาให้การเพิ่มเติม 5 ปาก
ที่มา:thairath