พักกิจการไม่มีกำหนด รีสอร์ตดราม่าด่าลูกค้าหิ้ว “หมูกระทะ” มากิน ตำรวจสอบพบถูกตั้งข้อหารุกพื้นที่ป่าสงวนตั้งแต่ปี 63 พร้อมที่พักอื่นอีก 3 แห่ง ล่าสุดสั่งปิดทั้งหมด จนกว่าจะดำเนินคดีแล้วเสร็จ
จากกรณี ดราม่าเจ้าหน้าที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในสะปัน ด่ากราดนักท่องเที่ยวที่หิ้วหมูกระทะร้านข้างนอกมากิน ถึงขั้นแจ้งความเอาผิด จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ดังที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เปิดใจหนุ่มรีวิวที่พักสะปัน หลังถูกเจ้าหน้าที่ต่อว่า เหตุหิ้ว “หมูกระทะ” เข้ามากิน)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน สนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ่อเกลือ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ สะปันซีวิวรีสอร์ตดังกล่าว ตรวจยึดสิ่งปลูกสร้างเป็นของกลางรวม 16 รายการ และติดป้ายประกาศ “ห้ามใช้สถานที่ เนื่องจากถูกตรวจสอบดำเนินคดี” หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ของรีสอร์ต สะปันซีวิว ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าดอยภูคา-ป่าผาแดง พื้นที่จำนวน 4-0-74 ไร่ ซึ่งเคยได้ถูกตรวจยึดรีสอร์ตที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ต้องหา 1 คน ชื่อนายป๋อน ชาวยอง อายุ 57 ปี ทั้งนี้ยังได้ตรวจยึดที่พักอีก 3 แห่ง ในข้อหาเดียวกัน ได้แก่
บ้านพักรีสอร์ตสายหมอกบอกฮัก เลขที่ 351 ต.ดงพญา ไม่พบตัวเจ้าของ จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุก 2-1-37 ไร่ สิ่งปลูกสร้างจำนวน 19 รายการ
บ้านพักรีสอร์ตไทรวารี เลขที่ 354 ม.1 ต.ดงพญา ไม่พบตัวเจ้าของจึงได้ยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุก 3-2-57 ไร่ สิ่งปลูกสร้างจำนวน 12 รายการ
บ้านพักรีสอร์ทดอยอิงดาว@ดงพญา เลขที่ 360 ม.1 ต.ดงพญา ผู้ต้องหา 1 คน ชื่อนายวิชชากร เชื้อหมอ อายุ 40 ปี ตรวจยึดพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุก 17-3-09 ไร่ สิ่งปลูกสร้างจำนวน 31 รายการ
เบื้องต้นพบว่า ทั้ง 4 ราย เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ใช่บ้านเรือนพักอาศัย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน แต่มีขออนุญาตขอบ้านเลขที่เพื่อทำการขอไฟฟ้าได้ แม้จะมีการเข้าตรวจยึดจับกุม ตั้งแต่ต้นปี 2563 และมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ออกจากพื้นที่เมื่อมิถุนายน 2564 แล้ว แต่ปัจจุบันยังพบว่า ผู้ประกอบการทั้ง 4 แห่งยังเปิดกิจการโรงแรม โดยอ้างว่าอยู่ยังในขั้นตอนการพิจารณาคดีในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายห้ามรีสอร์ตทั้ง 4 ที่ ให้หยุดดำเนินการกิจการที่พัก จนกว่าจะดำเนินคดีแล้วเสร็จ หากยังดำเนินการให้มีการเข้าพัก จะดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน.
ที่มา thairath
