“พล.อ.ประยุทธ์” เตรียมเป็นประธานพิธีเปิด “ท่าเรือราชินี-ท่าเรือบางโพ” เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 จากรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ชี้ เชื่อมโยงกับระบบขนส่ง ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยสู่อนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 ธ.ค. 2565) ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเช้าเสร็จสิ้น จากนั้นในเวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือราชินี และท่าเรือบางโพ “ของขวัญปีใหม่ 2566 พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยสู่อนาคตจากรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่อประชาชน” โดยมีกำหนดการดังนี้
เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงบริเวณท่าเรือราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ จากนั้นเยี่ยมชมบริเวณจุดชมวิว ณ บริเวณชั้น 2 ท่าเรือราชินี ก่อนที่เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางจากท่าเรือราชินี ไปยังท่าเรือบางโพ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ แล้วจึงเป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือราชินี และท่าเรือบางโพ ที่ท่าเรือบางโพ
ทางด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการจัดพิธีเปิดท่าเรือราชินี-บางโพ เมื่อวานที่ผ่านมา (22 ธ.ค. 2565) พร้อมคณะทำงาน เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ประจำปี 2566 ให้กับประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยสู่อนาคต ณ ท่าเรือราชินี และท่าเรือบางโพ
สำหรับพิธีเปิดท่าเรือในวันนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมจัดนิทรรศการแสดงเส้นทางการเดินเรือ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ รวมถึงวิวัฒนาการของการคมนาคมทางน้ำที่ผูกพันกับคนไทย รวมถึงนิทรรศการอื่นๆ โดยพร้อมสำหรับมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในช่วงปีใหม่ 2566
ทั้งนี้ การเปิดท่าเรือราชินี และท่าเรือบางโพ อย่างเป็นทางการ สอดรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่จะพัฒนาการให้บริการท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยา ยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น (ล้อ-ราง-เรือ) ได้อย่างไร้รอยต่อ ลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรทางบก ลดระยะเวลาในการเดินทาง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์การเดินทางของประเทศ.
ที่มา thairath