ตำรวจ ปคบ.ร่วม อย.ลุยสุพรรณบุรี ทลายโรงงานเถื่อนผลิตซิลิโคนจมูกดาราดัง “อั้ม-เบลล่า” ส่งขายคลินิกทั่วประเทศ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท จับสาวเจ้าของรับสารภาพเคยทำงานในคลินิกเสริมความงาม ก่อนลาออกมาเป็นเซลล์ขายซิลิโคน เห็นช่องทางเลยซื้อเครื่องผลิตส่งลูกค้าขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด 10 เท่า ทำมาแล้ว 2 ปี อีกคดี ล็อก 4 เภสัชกรเถื่อนขายยาเขียวเหลืองให้วัยรุ่นผสม 4×100
ปคบ.โชว์จับ 2 คดี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงผลจับกุม น.ส.ณัฐปภัสร์ พาณิชยการ อายุ 32 ปี พร้อม ของกลาง เครื่องจักรผลิตซิลิโคนเสริมจมูก 4 เครื่อง, เครื่องจักรสำหรับผลิตซิลิโคนเสริมหน้าผาก 1 เครื่อง, แม่พิมพ์ซิลิโคนทรงต่างๆ 68 แบบ, ซิลิโคนเสริมจมูกและหน้าผากสำเร็จรูป 1,098 ชิ้น, ซิลิโคนที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป 43 ก้อน รวมมูลค่ากว่า 3,500,000 บาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียน มีโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ลอบผลิตชิ้นส่วนซิลิโคนเสริมจมูก เสริมหน้าผาก ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้นโรงสีร้างในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วังหว้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พบคนงานกำลังผลิตซิลิโคน ตรวจยึดของกลางทั้งหมด มีซิลิโคนบล็อกจมูกของ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ และ “เบลล่า” ราณี แคมเปน 2 ดาราสาวชื่อดังรวมอยู่ด้วย จากการตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตผลิตเครื่องมือแพทย์
ขณะที่ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ.กล่าวต่อว่า สอบสวน น.ส.ณัฐปภัสร์ ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานในคลินิกเสริมความงามมาก่อน จากนั้นลาออกมาเป็นเซลล์ขายซิลิโคน กระทั่งเห็นช่องทางศึกษาและซื้อเครื่องผลิตส่งลูกค้าเอง เพราะมีฐานลูกค้าเก่าอยู่แล้ว ขายชิ้นละ 80 บาท ราคาถูกกว่าในตลาดที่ขายชิ้นละ 800 บาท ทำส่งลูกค้าประมาณ 5,000-10,000 ชิ้นต่อเดือน มีเซลล์ช่วยขายประมาณ 3 คน นอกจากนี้ ตรวจสอบพบว่ามีการส่งให้คลินิกเสริมความงามชื่อดัง ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดหลายสิบแห่ง ทำมาแล้วประมาณ 2 ปี จึงแจ้งข้อหา “ผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด”
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ นานสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การผ่าตัดใส่ซิลิโคนที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานเข้าไปในร่างกายอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อ อาจส่งผลร้ายกับใบหน้าและร่างกาย การผลิตจะต้องได้มาตรฐานและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง แจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
อีกคดี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงผลจับกุมของตำรวจ บก.ปคบ.กวาดล้างเภสัชกรเถื่อนลักลอบขายยาเขียวเหลือง หรือ ทรามาดอลให้กลุ่มวัยรุ่นใช้ผสม 4×100 ตรวจค้นร้านยาใน กทม. 4 จุด ยึดของกลางเป็นยาแก้ไอ แก้แพ้ 3,835 ขวด, ยาทรามาดอลและยากลุ่มแก้ปวด 6,170 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท และดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 รายในข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต และข้อหาขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ ปฏิบัติหน้าที่”
ผบช.ก.เปิดเผยว่า ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก อย. พบร้านขายยาสั่งซื้อยากลุ่มแก้ปวดทรามาดอลและยาแก้แพ้แก้ไอปริมาณสูงผิดปกติ กลุ่มวัยรุ่นนิยมนำมาผสมสารเสพติดชนิด 4×100 ได้สืบสวนสอบสวน ก่อนเข้าตรวจสอบร้านยาเป้าหมาย 4 แห่ง คือที่ร้านน้ำหวานเภสัช ย่านบางเขน มีนายนฤมิตร์ จรณโยธิน อายุ 31 ปี เป็นผู้จำหน่ายยา, ร้านต้นยา 8 ฟาร์มาซี ย่านบางกะปิ มีนายปภัสสร แก้วบุปผา อายุ 22 ปี เป็นผู้จำหน่าย, ร้านบ้านยา B&M ย่านลาดกระบัง มี น.ส.นรูอาดณี มะสีละ อายุ 24 ปี เป็นผู้จำหน่าย และร้านยาโปรด ย่านจตุจักร มีนายเศรษฐโรจน์ คุ้มพันธุ์แย้ม อายุ 35 ปี เป็นผู้จำหน่ายโดยที่ทั้งหมดไม่ได้เป็นเภสัชกร อีกทั้งยังตรวจพบยาแก้ไอ แก้แพ้, ยาทรามาดอลและยากลุ่มแก้ปวด เป็นยาอันตรายอีกจำนวนหนึ่ง ควบคุมตัวส่ง บก.ปคบ.ดำเนินคดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์