เปิดปาก “สาววัย 19” เล่านาทีโดน “มิจฉาชีพ” เข้ามาตีสนิทหลอกเปิดบัญชีออนไลน์ จนมีผู้เสียหายโดนหลอกโอนเงินกว่า 3 แสนบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มกราคม 2566 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ สาว 19 หลังเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด โดนมิจฉาชีพเข้ามาตีสนิท ทำทีช่วยลงทะเบียนโครงการช่วยเหลือของรัฐบาล สุดท้ายเรื่องแดงโดนเอาบัตรประชาชนเปิดบัญชีออนไลน์ หลอกลวงผู้อื่นเสียหายกว่า 3 แสนบาท

น้องฝ้าย ผู้ร้องเรียน เล่าว่า วันที่ 15 ธ.ค. 2565 อยู่ที่ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา ขณะกำลังนั่งรอทำงานพาร์ตไทม์ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาขอนั่งด้วย เพราะตอนนั้นช่วงเที่ยงคนเยอะ ต่างคนก็ต่างเล่นโทรศัพท์ กระทั่งเขาถามเราไปเรื่อยจนพูดถึงเรื่องรัฐบาลแจกเงิน 2,000 บาท โดยพูดซ้ำๆ ด้วยความที่คิดว่าเขาเอ็นดูเรา เลยเชื่อใจเขา จึงตัดสินใจทำ โดยเอาบัตรประชาชนเราไปเสียบที่ตู้ ซึ่งก็นั่งอยู่กับเขาทุกขั้นตอน ก่อนแยกก็บอกเดี๋ยวอีก 2 ชั่วโมงจะมี sms เข้าไป

กระทั่งบ่าย 3 วันเดียวกัน มีตำรวจจากจังหวัดหนองคาย โทร.มาถามว่าเราไปรับจ้างเปิดบัญชีให้ใครไหม เพราะมีคนโดนหลอกโอนเงินไป 150,000 บาท ตอนแรกไม่แน่ใจว่าใช่ตำรวจจริงไหม จึงคุยกับเขาผ่านไลน์ แล้วรีบไปอายัดบัญชีแต่ก็ไม่ทันเพราะมีคนเอาเงินออกไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นอายัดไป 1 บัญชี แต่ไม่รู้ว่ามีอีก 3 บัญชี มารู้อีกทีวันที่ 17 ม.ค. 2566 รวมเปิดไว้ทั้งหมด 4 บัญชี เจอผู้เสียหายอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นโดนหลอกไป 200,000 บาท

ขณะที่ ปานทิพย์ แม่ของผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตอนแรกลูกยังไม่บอก ให้อาเขาโทร. มาบอก เพราะตอนแรกยังไม่อยากให้ลูกไปทำงาน เพราะลูกเพิ่งถูกรถชนมาแล้วขาหักเมื่อ ก.ค. เลยไม่อยากให้ลูกออกไปทำงาน แต่ก็ปล่อยเพราะลูกรั้นที่จะไปทำงาน พอรู้เรื่องก็พูดไม่ออก

ทางด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ถ้าวันนั้นธนาคารตรวจสอบให้น้องว่ามีทั้งหมด 4 บัญชี ทุกอย่างก็จะจบ

น้องฝ้าย เล่าต่อว่า 4 บัญชี ถูกเปิดหลายสาขา คือที่ ยะลา, แม่ฮ่องสอน, ศรีสะเกษ และปัตตานี รวมแล้วทั้งหมด 390,000 บาท บัญชีแรก 150,000 บาท จากจังหวัดหนองคาย ได้คุยกับเจ้าของบัญชีแล้ว เขาก็ไม่สนว่าโดนหลอกยังไง แต่มันเป็นชื่อเราก็ควรรับผิดชอบ เพราะว่านี้ก็เป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขาเหมือนกัน โดยเคสนี้โดนหลอกว่าเป็นคุณครูซึ่งเจ้าของเงินเป็นแม่ค้าขายของในโรงเรียนอยู่แล้ว โดยมิจฉาชีพหลอกว่า ผอ.จะรีบใช้เงิน ให้โอนมาก่อน แล้วจะให้ญาติเอาเงินสดมาให้ ซึ่งเขาก็รู้ตัววันนั้นเลยเหมือนกัน

ส่วนบัญชี 200,000 บาท จากจังหวัดระยอง ได้ไปโรงพักเจอกับผู้เสียหายเป็นผู้รับโอนเงินอยู่แล้ว เขาเล่าว่าโดนอ้างว่าเป็นพนักงานในรีสอร์ตซึ่งลูกค้าต้องการโอนเงินไปให้ลูก ผู้เสียหายเห็นว่ารีสอร์ตนั้นใหญ่ก็เลยหลงเชื่อโอนให้ โดยผู้เสียหายก็พูดทำนองเดียวกันว่าให้ไปตามคนนี้ให้เจอ เพื่อช่วยกันจ่ายเงินให้เขา ส่วนบัญชี 40,000 บาท ยังไม่มีใครติดต่อมาทั้งผู้เสียหายและตำรวจ

คุณเอกภพ เผยต่อว่า ปัจจุบันมันมีมิจฉาชีพในรูปแบบใหม่จริงๆ คือการแอบอ้างโทร. ไปหาคนที่ท่านรู้จัก แล้วอ้างว่าเป็นตัวท่าน ซึ่งมีข้อมูลของท่านทั้งหมด อ้างว่าเป็นตัวท่านแล้วโทรศัพท์หาย เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ทำให้แอปฯ เงินใช้ไม่ได้ รบกวนโอนเงินมาให้หน่อย ต้องใช้เงินด่วน เดี๋ยวตอนเย็นจะเอาเงินไปคืนให้ อันนี้คือสิ่งที่แปลกใจมาก เพราะเสียงเหมือนมาก โดยเจอมากับตัวเองไม่นานมานี้

ด้าน ปานทิพย์ แม่ของผู้ร้องเรียน เผยทั้งน้ำตาว่า ไม่มีปัญญาใช้หนี้เขา มันเยอะเกินกว่าฐานะพวกหนู เพราะลำพังทุกวันนี้ก็ลำบากกันอยู่แล้ว ยิ่งการเดินทางไปแต่ละครั้งต้องหายืมเงินคนอื่นเขาไป เราไม่ได้มีเงิน เพราะต้องใช้เงินในการเดินทางตลอด พวกเขาใจร้ายมากเลยที่ไปหลอกคนอื่น คนอื่นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขา แต่พวกเขากินอยู่สุขสบายใช้แต่ของดีๆ มีเงินมีทองโดยที่ไม่โดนจับ แต่ตาสีตาสาอย่างเราไม่รู้อะไรกับต้องมารับเคราะห์แทน

ขณะที่ คุณเอกภพ เผยว่า เรื่องทางคดีต้องบอกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ขอให้สอบปากคำ และรับฟังข้อมูลจากทางนี้ด้วย เพราะเขาคือเหยื่อคนหนึ่งเหมือนกัน อย่าจับแต่บัญชีปลายทาง แต่ต้องตามโจรตัวจริงด้วย.

อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์