“อนุทิน” พร้อมทำงานทุกบทบาทหลังเลือกตั้ง 2566 เชื่อ ส.ว. ไม่ฝืนโหวตนายกรัฐมนตรี ที่มาจาก ส.ส.เสียงข้างน้อย ลั่น ถ้าประชาชนเลือกเข้ามามากก็พร้อมเป็นผู้นำประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2566) ถึงเป้าหมายการเมืองของพรรคในศึกการเลือกตั้ง 2566 ว่า พรรคภูมิใจไทยทำเต็มที่แน่นอน และหลังเลือกตั้งเราพร้อมทำงานในทุกบทบาท ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของประชาชน ถ้าประชาชนเลือกเข้ามามากก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งบทบาทนายกฯ ของตนคือการประสานทุกฝ่ายช่วยกันทำงาน เรื่องข้าง เรื่องสี ขอให้พอ ประเทศไทยถูกความขัดแย้งเหนี่ยวรั้งมานานเกินไปแล้ว
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าจากนี้พรรคภูมิใจไทยจะเปลี่ยนจากพรรคผู้ถูกเลือก เป็นพรรคที่เป็นผู้เลือกแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เอาเข้าจริงเราเป็นผู้เลือกอยู่ตลอด ครั้งที่แล้วถ้าไม่ได้พรรคภูมิใจไทยจะตั้งรัฐบาลกันได้หรือไม่ ย้อนกลับไปมีการเสนอสิ่งต่างๆ มาให้ตนและพรรคมากมาย ตำแหน่งสูงกว่ารัฐมนตรีก็ให้ แต่ถามว่ารับไปแล้วบ้านเมืองไปต่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ ถึงเป็นนายกฯ ก็ไม่มีประโยชน์ คราวที่แล้วเมื่อเราเลือก อำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็หมดไปทันที แต่ถ้าไม่เลือก ตามรัฐธรรมนูญคือรัฐบาลรักษาการอยู่ต่อไปจนถึงการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดเพราะการเลือกของพรรคภูมิใจไทย เราทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบใหม่ และประเทศไทยก็ยังไปข้างหน้าได้ด้วย
ที่สำคัญการเลือกของเราเป็นไปตามที่เราบอกไว้ว่า จะไม่ให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาชี้ขาดนายกฯ เพราะจะเห็นว่านายกฯ ก็ได้มาจากเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เกินครึ่ง ครั้งนี้ก็เหมือนกันยังยึดมั่นในหลักการเดิม และเชื่อว่า ส.ว. จะไม่ฝืนเสียงประชาชนตั้งนายกฯ ที่มาจาก ส.ส.เสียงข้างน้อย เราไม่เอาด้วยแน่ ถ้ารวมเสียง ส.ส. ได้ 240 เสียง แล้วไปเอาเสียง ส.ว.มาเติมให้ครบ 375 เสียง สิ่งที่ต้องคิดในฐานะนักการเมืองก็คือโจทย์ที่ว่า จะทำอย่างไรให้การเมืองมันเข้มแข็ง เรื่องนี้สำคัญมาก
“ผมมองว่าการเมืองไทย มีวิวัฒนาการ ถ้า ส.ส.ร่วมกันได้ รวมเสียงเลือกนายกฯ ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง ท่าน ส.ว. ท่านก็น่าจะเทไปตามเสียงตัวแทนพี่น้องประชาชน ผมเชื่อแบบนั้น”
ที่มา thairath