คนงานก่อสร้างชาวจีน 2 รายถูกรวบตัวดำเนินคดี หลังใช้รถขุดทุบทำลายส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนจนเสียหาย โดยอ้างเหตุผลว่าต้องการจะใช้เป็นทางลัด

นับเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีของจีน หลังจากที่ส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานซี ถูกคนงานก่อสร้าง 2 คนใช้รถขุดดินทุบทำลายไปแบบไม่เห็นคุณค่า โดยอ้างเหตุผลเพียงว่าพวกเขาจะได้ใช้เป็นทางลัดเพื่อย่นเวลาในการเดินทางไปทำงานให้เร็วขึ้น โดยล่าสุดตำรวจจีนสามารถรวบตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้แล้ว เป็นชายวัย 38 ปี และหญิงวัย 55 ปีที่ทำงานก่อสร้างอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และกำลังเร่งสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อตั้งข้อหาสร้างความเสียหายต่อกำแพงเมืองจีนที่ไม่อาจซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ และทำลายโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมกับผู้ต้องหาทั้งสองคนต่อไป

โดยภาพที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียล จะเห็นช่องถนนที่ตัดผ่านกำแพงเมืองจีนที่ 32 ตั้งอยู่ในเขตโหย่วหยู่ กลายเป็นช่องขนาดใหญ่ เพื่อให้รถขุดดินผ่านไปได้ โดยกำแพงเมืองจีนที่ 32 เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนหมิง และถูกจัดอยู่ในประเภทสถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมซึ่งได้รับการคุ้มครองในระดับจังหวัดด้วย

ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเตือนถึงความเสียหายของกำแพงเมืองจีนจุดดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี กำแพงเมืองจีน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกตั้งแต่ปี 2530โดยถูกสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนรัชสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จนกระทั่งเสร็จสิ้นในยุคราชวงศ์หมิง โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือ โดยรายงานจากหนังสือพิมพ์ ปักกิ่ง ไทมส์ เมื่อปี 2016 รายงานว่ามีกำแพงเมืองจีนมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ผุกร่อนพังทลายไปทั้งหมดแล้ว โดยมีกำแพงเมืองจีนเพียงแค่ 8 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบรูณ์ ทำให้รัฐบาลจีนให้ความสำคัญและพยายามที่จะดูแลรักษากำแพงเมืองจีนที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นอย่างมาก.

ที่มา : บีบีซี