ทั่วไทยชุ่มฉ่ำ ฝนถล่ม-น้ำป่าทะลัก “แม่ฮ่องสอน” ยังอ่วม เร่งเคลียร์เส้นทางแม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า หลังตอม่อสะพานทรุดตัวจากฤทธิ์น้ำป่า เจอแล้วศพ สาวใหญ่ถูกน้ำซัดลอยไปไกล 1 กม. “วนอุทยานถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ” ประกาศปิดการท่องเที่ยวถึงกลางเดือน ขณะที่หลายจังหวัดมีเหยื่อสังเวยน้ำท่วมเช่นกัน “ชาวเกาะหลีเป๊ะ” กว่า 100 ครัวเรือนเดือดร้อนหนัก ฝนตก น้ำขังในชุมชน เร่งสูบน้ำระบายลงทะเล
สถานการณ์ฝนฟ้าอากาศในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ หลังร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรเสียหายในเกือบทุกภาค เริ่มที่ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ก.ย. ร.ต.อ.สุวรรณ เจริญสุข รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมแพทย์ รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน ร่วมชันสูตรศพนางหมวย ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/ช หมู่ 1 บ้านห้วยผา ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถูกน้ำป่าพัดหายขณะเคลื่อนย้ายรถ จยย.ฝ่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวเมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย. กระทั่งศพไปโผล่ใต้อาคารเก็บกระเทียมในหมู่บ้านห้วยผา ห่างจุดเกิดเหตุ 1 กม. สภาพขึ้นอืด เสื้อผ้าหลุดรุ่ย มีเศษซากกิ่งไม้ทับถมร่างไว้ มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำศพห่อผ้าขาวส่งโรงพยาบาล ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยทางหลวงเร่งติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราวบนทางหลวงสาย 1095 แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า บ้านห้วยผา ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาราว 3 ชม. ต้องปิดกั้นถนนรถทุกชนิดผ่านไม่ได้ เนื่องจากตอม่อสะพาน ร.ร.บ้านห้วยผา ทรุดตัวจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย. ด้านทหาร ฉก.สิงหนาท (ร.17) และตชด.336 นำกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเคลียร์พื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน หมู่ 1 บ้านห้วยผา ที่ถูกน้ำป่าจากลำห้วยหลากเข้าท่วมบ้าน ส่วนที่บ้านหมอกจำแป่ หมู่ 1 ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ถนนทางเข้าหมู่บ้านได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่น ไหล่ทางทรุดหลายจุด ด้านอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ออกประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวถ้ำปลา หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ถผ.1 (ถ้ำปลา) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9-16 ก.ย. หลังเกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยแม่สะงีและลำน้ำห้วยผา
จ.แพร่ ร.ต.อ.นัฒรุฒย์พล ท้าวปัญณพัฒน์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เวียงต้า อ.ลอง รับแจ้งมีผู้ถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย ประสานเจ้าหน้าที่ร่วมออกค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทั่งพบร่างผู้สูญหายคือนายจำรัส ศิริโสภา อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 บ้านผาลาย หมู่ 6 ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ ที่ลงไปเก็บตาข่ายดักปลาบริเวณฝายน้ำล้น กลางลำห้วยแม่ต้า และถอดเสื้อผ้ากองไว้ริมถนน ก่อนถูกน้ำเชี่ยวกรากพัดร่างหายไปพร้อมกับวัชพืช ลอยห่างออกจากจุดพบเสื้อผ้าราว 150 เมตร ไปติดค้างอยู่กับกิ่งไม้ริมตลิ่ง กู้ภัยร่วมกับชาวบ้านช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำ ให้แพทย์ รพ.ลอง และตำรวจชันสูตรไม่พบร่องรอยบาดแผล ญาติไม่ติดใจสาเหตุ มอบร่างให้นำไปทำพิธีทางศาสนา
จ.พิษณุโลก พ.ต.ท.เสน่ห์ พรมรัตน์ สว. (สอบสวน) สภ.นครไทย รับแจ้งพบศพผู้สูญหายในน้ำพร้อมรถ จยย.ฮอนด้า สีแดง ทะเบียน กษย 337พิษณุโลก ในคลองหลุม บ้านกกมะมุง หมู่ 3 ต.ยางโกลน อ.นครไทย แล้ว หลังสูญหายไปตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 9 ก.ย. ไป ตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย พบร่างนายถึง หาญไชยภา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 3 ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สภาพศพไม่มีบาดแผลถูกร้าย นางกาย พรมมาลี อายุ 56 ปี น้องภรรยาผู้ตายเล่าว่า เช้าวานนี้นายถึงขี่รถ จยย.ออกจากสวนไปซื้อน้ำมันในร้านค้าภายในหมู่บ้าน ตกค่ำไม่กลับบ้าน ญาติตามหาพบรองเท้าลอยอยู่ในคลอง คาดรถลื่นล้มแล้วถูกน้ำพัดลงคลอง
จ.ร้อยเอ็ด สายวันเดียวกัน หน่วยกู้ภัยศิลานคร รับแจ้งมีคนจมน้ำในทุ่งนาบ้านโนนสูง ต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ นำกำลังไปค้นหาบริเวณทุ่งนาท้ายหมู่บ้านติดลำน้ำที่ยังมีน้ำท่วมสูง 3 เมตร พบศพนายคำภา สุภาพ อายุ 70 ปี บ้านอยู่เลขที่ 44 หมู่ 5 ต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ นอนคว่ำหน้าจมน้ำตาย ชาวบ้านเล่าว่า เห็นนายคำภาพายเรือออกมาหาปลาในทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วม คาดอาจเป็นตะคริวเนื่องจากน้ำเย็นและมีฝนตก แต่ไม่มีคนพบเห็นเลยจมน้ำเสียชีวิต
จ.สตูล ที่เกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล มีฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขัง เนื่องจากพื้นที่เป็นแอ่งกระทะไม่มีทางระบายน้ำ หลังประสบปัญหา นายเดชณรงค์ อยู่กลาง ผญบ.หมู่ 7 เกาะหลีเป๊ะ พร้อมชาวบ้านนำเครื่องสูบน้ำของ อ.เมืองสตูล ที่เตรียมการไว้บนเกาะหลีเป๊ะ 2 เครื่อง เร่งสูบระบายน้ำลงทะเล แต่เนื่องจากฝนยังคงตกต่อเนื่อง แม้จะสูบน้ำออกไป แต่ในพื้นที่กลับมีฝนเติมเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ระดับน้ำบางจุดสูงแค่หัวเข่า บางจุดสูงถึงเอว เช่น ชุมชนตุโป๊ะ ชุมชนสิเข่ง และชุมชนอูเส็น มีชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน
ที่มา – ไทยรัฐ
