กรมอุทยานฯ เตรียมเปิดให้เที่ยวชม ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่ 13 หมูป่าติดถ้ำเมื่อ 5 ปีก่อน ในโถง 2-3 ซึ่งไม่เคยให้เข้าชมมาก่อน แต่มีเสียงบ่นว่าค่าเข้าแพงเกินไป เบื้องต้น จะเก็บคนไทย 950 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ คนละ 1,500 บาท สำนักอุทยานฯ ออกมาชี้แจงว่า เพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากในการดูแลนักท่องเที่ยว ทำให้ต้องเก็บค่าเข้าชมแพงกว่าปกติ แต่เตรียมให้ท้องที่ชี้แจงรายจ่ายอีกครั้ง
อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโถง 2-3 หลังปิดการท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าวจากเหตุการณ์ภารกิจช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า เมื่อปี 2561 และเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวสายลุยเข้าชม โดยจะเป็นกรุ๊ป 6-8 คน ซึ่งเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจจอง แต่หลายคนกลับไม่เห็นด้วย และมองว่าค่าเข้าชมในราคาคนไทย 950 บาท/คน ชาวต่าชาติ 1,500 บาท/คน ค่อนข้างแพง
ด้วยราคาเข้าชมถ้ำหลวง ในโถง 2-3 ที่เป็นประเด็น ได้สอบถามไปยัง นางวนบุษป์ อรรถวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ สำนักอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยกับเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า เบื้องต้นการท่องเที่ยวถ้ำหลวงในโถง 2 และ 3 ต้องมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแลนักท่องเที่ยวภายในถ้ำ ประกอบกับต้องมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวพาเข้าไป ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่าย เนื่องจากสภาพทางเข้าไปภายในถ้ำค่อนข้างลำบากในบางจุด ทำให้ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลค่อนข้างมาก
การท่องเที่ยวในจุดนี้ ไม่ใช่การท่องเที่ยวแบบปกติ เหมือนกับการเดินป่าทั่วไป จากการเปิดให้ทดลองท่องเที่ยวครั้งที่ผ่านมา ผู้ที่เข้าไปต้องมีการซื้อประกันต่างหาก
กำลังเจ้าหน้าที่ที่พาเข้าไป จะมีชุดนำด้านหน้า และต้องมีชุดปิดท้ายนักท่องเที่ยว พร้อมกับต้องมีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ภายในถ้ำอีกหลายจุด เพื่ออำนวยความสะดวกคนที่เข้าไปเที่ยวตลอดระยะทาง และด้วยเหตุนี้ทำให้ในแต่ละวัน ถ้าเปิดท่องเที่ยวแล้ว จะรับนักท่องเที่ยวได้ไม่มาก
ขณะเดียวกัน รายจ่ายส่วนหนึ่งมาจากค่าอุปกรณ์ เช่น หมวกกันกระแทก ไฟฉาย ที่นักท่องเที่ยวต้องสวมเข้าไปทุกคน แต่เบื้องต้นเตรียมให้อุทยานในพื้นที่ชี้แจงรายจ่ายทั้งหมดอีกครั้ง เพราะเริ่มมีประชาชนที่เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่าแพงเพิ่มขึ้น
การเข้าไปในพื้นที่โถง 2-3 บางช่วงต้องมีการเดินลุยโคลน บางจุดต้องเอาตัวไถเพื่อลอดช่องหินภายในถ้ำ ซึ่งเมื่อตอนเข้าไป ทางทีมงานจะไม่ให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปได้ทุกจุด เพราะการเข้าไปต้องเรียงแถวเป็นระเบียบ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เบื้องต้น การเดินไปและกลับใช้เวลาเฉลี่ย 3-4 ชั่วโมง เบื้องต้น คาดว่าจะสามารถพานักท่องเที่ยวเข้าไปได้ครั้งละ 6-8 คนเท่านั้น
ขณะนี้พื้นที่ภายในถ้ำยังมีน้ำที่ไหลออกมาภายนอก ทำให้การเข้าไปยังยากลำบาก เนื่องจากยังมีโคลน แต่ถ้าจะรอให้พื้นในถ้ำแห้งจะประมาณเดือน ก.พ.-เม.ย. เป็นช่วงเวลาในการเข้าไปเที่ยวที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นผลมาจากการที่ต้องจ้างผู้นำเที่ยว และเจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลประจำจุด และตลอดเส้นทาง
หลังจากนี้ ทางอุทยานท้องถิ่นจะมีการชี้แจงค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง และเตรียมให้นักท่องเที่ยวที่สนใจลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์อีกครั้ง.
ที่มา – ไทยรัฐ