“อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เผยอัยการ-ตร.ปอท.แจ้งอายัด ขอตัว “ทักษิณ” ไว้ดำเนินคดีค้างเก่า รอผ่านไฟเขียวพักโทษ แจงเข้าข่ายผู้สูงอายุอาจยกเว้นติดกำไลอีเอ็ม ทีมอัยการ แถลงอดีตนายกฯติดคดี ม.112 ร่วมกันหมิ่นฯหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ยันโชว์หมายจับตั้งแต่วันที่กลับเข้าไทย “ทวี” ป้องนายใหญ่ยืนกรานนอนโรงพยาบาลถือว่ารับโทษแล้ว โต้ถ้าสอบสวนเสร็จแล้วไม่ต้องอายัดตัว “นายกฯ” เรียกถกบอร์ด ดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์หน้า “จุลพันธ์” ย้ำชัดลุยต่อ ไม่มีถอย หารือบอร์ดเคลียร์ 2-3 ประเด็นปิดช่องโหว่ ทุจริต อีก 2 เดือน เข้า ครม. ป.ป.ช.เห็นชอบผลศึกษา ผ่อนคลายสภาพบังคับ ตัดทอนข้อกล่าวหาหาเสียงสัญญาว่าจะให้ สว.โวยรัฐบาลออกอาการยื้อหนีซักฟอกไม่ลงมติ ขู่ยื่น ป.ป.ช.ฟัน ม.157
จากกรณีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะได้รับการพักโทษถูกปล่อยตัวในวันที่ 22 ก.พ. ล่าสุด สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือแจ้งกรมราชทัณฑ์ ขออายัดตัวนายทักษิณมาดำเนินคดีในคดีมาตรา 112 ที่เป็นคดีค้างเก่าเรียบร้อยแล้ว
ราชทัณฑ์เผยอัยการแจ้งอายัด “ทักษิณ”
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่กรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับ การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และพนักงานอัยการ สำนักงาน อัยการสูงสุด มีหนังสือแจ้งขออายัดตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากคดีคงค้างเดิมและได้รับการยืนยันจาก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ นายทักษิณ เรียบร้อยแล้วตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. ส่วนที่มีหนังสือตอบกลับจากตำรวจ บก.ปอท. ไปยังผู้ร้องเมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 อาจเพราะตอนนั้นพนักงานอัยการยังไม่ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หนังสือขออายัดตัวผู้ต้องขังถือเป็นปกติ ถ้ายังมีคดีอื่นตำรวจจะแจ้งอายัดขอตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำ เพื่อให้เรือนจำรู้ว่าถ้าครบวันจะปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือได้รับการพักโทษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหานำส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการในคดีที่ขออายัดตัว หากจะมีการขอประกันตัวใดๆ เป็นไปตามกระบวนการ
อายัดตัวได้หลัง ยธ.ไฟเขียวพักโทษ
นายสหการณ์กล่าวต่อว่า รายชื่อผู้ต้องขังทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์จะได้รับการพักการลงโทษไม่ว่ากรณีปกติหรือกรณีมีเหตุพิเศษ ทราบว่า ประชุมไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือน ม.ค. กรมราชทัณฑ์ได้รับจำนวนรายชื่อผู้ต้องขังหลายพันรายจากทั้งหมด 143 เรือนจำทั่วประเทศ ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในชั้นเตรียมเสนอคณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษ จากนั้นเสนอไปยัง รมว.ยุติธรรม แต่ละขั้นตอนค่อนข้างมีความละเอียด เพราะต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้ต้องขังให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ควรได้รับ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่ารายชื่อนายทักษิณ อยู่ในเกณฑ์ผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอกระบวนการของ คณะกรรมการฯ แต่หากพูดตามหลักการนายทักษิณ ถือเป็นผู้ต้องขังสูงวัย มีอาการเจ็บป่วยและรับโทษ มาแล้ว 1 ใน 3 แต่ถึงอย่างไรคณะกรรมการฯต้อง พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ถ้ารายชื่อได้รับการรับทราบในชั้น กระทรวงยุติธรรม ต้องแจ้งไปยังตำรวจ บก.ปอท.เพื่อให้อายัดตัวผู้ต้องหาในสถานที่คุมขังได้
แจงผู้สูงอายุอาจยกเว้นติดกำไลอีเอ็ม
อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อว่า กรณีที่วิเคราะห์กัน ว่า วันที่ 18 ก.พ. หรือวันที่ 22 ก.พ. เป็นวันที่อดีต นายกฯจะได้รับการปล่อยตัว เพราะผ่านเข้าโครงการพักโทษ ปกติแล้วเรือนจำ ทัณฑสถาน จะพิจารณาล่วงหน้าก่อนเข้าโครงการพักการลงโทษได้ถึง 3 เดือน เพราะต้องการให้ผู้ต้องขังไม่เสียประโยชน์การได้พักโทษ และพอครบเวลาคุมขังแล้ววันถัดไปสามารถปล่อยตัวเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษ กรมคุมประพฤติต้องรับไปดูแลต่อ ส่วนการติดกำไลอีเอ็ม ผู้ต้องขังระหว่างพักโทษ กรมคุมประพฤติจะมีข้อปฏิบัติหลายประเด็น ต้องประเมินและกำหนด เช่น ถ้าผู้ต้องขังเจ็บป่วยร้ายแรง ดูแล้วไม่อยู่ในภาวะที่จะ ไปก่อความผิดหรือเป็นผู้สูงอายุ ดูแล้วไม่สามารถไป สร้างปัญหาได้ อาจเป็นข้อยกเว้นไม่ให้ติดกำไลอีเอ็ม แต่ผู้ต้องขังไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าผู้ต้องขังจะไปออกรายการใดๆขึ้นอยู่กับว่าสิ่งนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ อยู่ที่กรมคุมประพฤติต้องไปประเมิน ผู้ต้องขังต้องขออนุญาตก่อน เพราะยังเป็นผู้ต้องขังตามคำพิพากษาศาล โดยห้วงเวลาเสร็จสิ้นการพักโทษให้นับไปจนถึงวันที่ผู้ต้องขัง จะพ้นโทษ กรณีอดีตนายกฯเดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 จากนั้นได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ 1 ปี และคุมขังมาแล้ว 6 เดือน ที่เหลือจะเป็นระยะเวลาที่ต้องใช้คำนวณในการพักโทษ
อัยการแถลงอดีตนายกฯ ติดคดี ม.112
ต่อมา เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการ สูงสุด รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ร่วมแถลงข่าวคดีค้างเก่าของนายทักษิณที่กำลังจะได้พักโทษต้องถูกนำตัวมาฟ้องคดีอาญา ที่ยังค้างสำนวนอย่างต่อเนื่อง โดยนายประยุทธ เพชรคุณ แถลงว่า นายทักษิณเป็นผู้ต้องหาในสำนวนคดีอาญาความผิดนอกราชอาณาจักร คดีนี้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.59 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 ปอท. มี พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม พนักงานสอบสวนกล่าวหานายทักษิณ ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ใดๆ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐ เกาหลี (เกาหลีใต้) และประเทศไทยเกี่ยวพันกันอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม ป.อาญามาตรา 112 โดยคณะทำงานพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง
โชว์หมายจับแจ้งอายัดไว้ตั้งแต่เข้าไทย
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดี ความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอก ราชอาณาจักรไทย จึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของอัยการ สูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริการ อัยการสูงสุดขณะนั้นมีความเห็น เมื่อวันที่ 19 ก.ย.59 ตรวจพิจารณาสำนวนแล้ว ได้มี ความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากขณะนั้นผู้ต้องหาหลบหนี อัยการสูงสุดแจ้งให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับ และพนักงานสอบสวนได้มีคำขอต่อศาลอาญาและออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว ครั้นต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 นายทักษิณเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและถูกควบคุมเพื่อรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น พนักงานสอบสวนได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดผู้ต้องหาไว้กับกรมราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว
17 ม.ค. “ทักษิณ” ยื่นขอความเป็นธรรม
ต่อมา วันที่ 17 ม.ค.67 นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และคณะ ร่วมกับ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี เข้าแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกับพฤติการณ์ และข้อเท็จจริงทางคดีให้นายทักษิณทราบแล้ว ปรากฏว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน และหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุด พิจารณา สำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ตรวจพิจารณาและทำความเห็นเบื้องต้นเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา มีความเห็นและคำสั่งทางคดีต่อไป ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งอายัดตัวนายทักษิณ ไว้กับกรมราชทัณฑ์ ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
ความเห็นอัยการสูงสุดออกได้ 3 หน้า
นายประยุทธกล่าวด้วยว่า อัยการสูงสุดมีอำนาจ พิจารณาได้ 3 ทางของสำนวนนี้คือ 1.ข้อเท็จจริงหากเห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่ครบถ้วน สามารถสั่งให้พนักงานอัยการไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม 2.หากข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วให้ยืนตามความเห็นเดิมที่ว่า “ให้สั่งฟ้อง” นายทักษิณตามข้อกล่าวหา 3.หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติ กรรมไม่เข้าข่ายความผิด สามารถมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายทักษิณได้ ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามคำร้องหนังสือขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณแย้งมาว่ามีข้อต่อสู้อะไรที่ สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนได้ หากไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้
ตั้งท่ารอรับหลังปล่อยตัว 22 ก.พ.
นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ เปิดเผยว่า ประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณต้องรอความชัดเจนจากกรมราชทัณฑ์ยังไม่มีคำสั่งชัดเจน หากนายทักษิณได้รับการพักโทษวันที่ 22 ก.พ. ตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์ต้องแจ้งพนักงานสอบสวนล่วงหน้า 7 วันก่อนปล่อยตัว เพื่อให้ไปรับตัวนายทักษิณมาดำเนินคดีในคดีมาตรา 112 เมื่อพนักงานสอบสวนไปรับตัวแล้ว จะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือจะไปดำเนินการขั้นตอนการฝากขังครั้งแรกของในคดีมาตรา 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วหรือรับตัวมาแล้วจะมีหนังสือมาแจ้งยังอัยการสูงสุดว่ามีการรับตัวนายทักษิณมาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนไหนของพนักงานสอบสวน และเมื่ออัยการได้รับขั้นตอนจากพนักงานสอบสวนมาแล้ว หน้าที่ของอัยการจากนั้นต้องมาพิจารณา เอกสารการร้องขอความเป็นธรรมและพิจารณาสำนวนคดี
ยันไม่ยืดเยื้อซ้ำรอย “บอส อยู่วิทยา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้ต้องหายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เพื่อประวิงคดีอาจทำให้คดียืดเยื้อไป เหมือนกรณีนายบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง นายประยุทธ์กล่าวว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอน สำนักอัยการสูงสุดได้ถอดบทเรียนจากกรณีของบอส อยู่วิทยา พร้อมปรับแก้ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดกรณีการร้องขอความเป็นธรรม โดยผู้ถูกกล่าวหาต้องเป็นผู้มายื่นคำร้องด้วยตัวเอง ไม่สามารถให้ ทนายความหรือบุคคลอื่นที่รับมอบอำนาจมายื่นให้โดยเด็ดขาด และหากเห็นว่าเป็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กระทำไปเพื่อประวิงเวลา อัยการสูงสุดมีอำนาจยุติการร้องขอความเป็นธรรมได้เช่นกัน ขอให้สังคมเชื่อมั่นการทำงานของอัยการสูงสุดว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ปอท.ย้ำเข้าไปแจ้งข้อหาที่ รพ.ตำรวจ
เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหากระทำผิดมาตรา 112 ว่า คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้ออกหมายจับไว้เมื่อช่วงเดือน ม.ค.2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 หลังนายทักษิณเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และถูกควบคุมเพื่อรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น พนักงานสอบสวน บก.ปอท.พร้อมอัยการได้ทำหนังสือแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาไว้ที่กรมราชทัณฑ์ จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวน บก.ปอท.พร้อมด้วยพนักงานอัยการได้เข้าแจ้ง ข้อกล่าวหาแก่นายทักษิณที่ รพ.ตำรวจ โดยผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ หากนายทักษิณได้รับการพักโทษ หรือพ้นโทษจากคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะต้องรอรับแจ้งจากพนักงานอัยการ และกรมราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ที่มา – ไทยรัฐ