จากกรณี ปุ้ย น้องสาว ใหม่ ธนาสันต์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุถูก ช่างกิต ฆาตกรรม เพราะความหึงหวง โดยปุ้ย กับแม่ ได้เข้าหารือทนายไพศาล เกี่ยวกับเงินประกันและผลประโยชน์ที่ได้รับว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะรับไม่ได้ที่ พร ภรรยาของใหม่ มีพฤติกรรมชู้สาว

ล่าสุด ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี กรมธรรม์ประกันชีวิตของนายใหม่ ที่จะได้รับหลังเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม พบว่า ข้อมูลบางอย่างที่ปุ้ย ให้ไว้นั้นว่า ใหม่ ทำประกันชีวิตเพิ่ม มีความคลาดเคลื่อน เพราะแท้จริงแล้วเป็นประกันชีวิตกลุ่มของบริษัท ที่ทำให้พนักงานเป็นรายปี ซึ่งทุกปีจะมีวงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท

โดยเมื่อเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2566 นายใหม่ ได้เพิ่มผู้รับผลประโยชน์ตรงนี้ จากเดิม เป็นแค่พร แต่เพิ่มชื่อ แม่ รับผละประโยชน์คนละครึ่ง จากนั้นใหม่ได้โทรศัพท์แจ้งให้แม่ทราบ ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เพิ่งทำประกันชีวิตส่วนตัวฉบับใหม่

ต่อมาตำรวจ ประสานกับหัวหน้างานเพิ่มเติม ได้รับการยืนยันว่า ยอดเงินทั้งหมด รวมกันอยู่ที่ 500,000 – 600,000 บาท (รวมประกันชีวิตที่กล่าวถึงข้างต้นด้วย) ซึ่งอยู่ระหว่างการคิดคำนวณยอดที่แน่ชัดของทางบริษัท แบ่งแยกย่อยได้ดังนี้

1. เงินช่วยเหลือ (คำนวณตามอายุงาน) จำนวน 160,832 บาท

2. กองทุนฌาปนกิจ จำนวน 132,700 บาท

3. ประกันชีวิต 100,000 บาท

4. เงินเดือน เดือนสุดท้าย งวดต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่ทราบจำนวน

5. เงินโบนัส ครึ่งปีแรก 2567 ยังไม่ทราบจำนวน

ซึ่งรายการที่ 1 – 5 นั้นแบ่งผู้รับผลประโยชน์ 2 คน คือ มารดา และภรรยา

ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (คำนวณตามเงินสะสม และ เงินสมทบ) ระบุผู้รับผลประโยชน์ 1 คน คือ ภรรยา ซึ่งหากรวมรายการทั้งหมดพอสังเขป อยู่ที่ประมาณ 500,000 – 600,000 บาท

พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ยืนยันว่า นายใหม่ ไม่ได้ทำประกันเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นหากแบ่งผลประโยชน์จากกรมธรรม์ดังกล่าวประมาณ 5 – 6 แสนบาท ผู้รับประโยชน์คือแม่ของนายใหม่ และพร ต้องแบ่งคนละครึ่ง แต่พรจะได้เยอะกว่าในเรื่องของ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งต้องคำนวณตามเงินสะสม และ เงินสมทบอีกครั้ง