“ชวน” โต้ไร้ใบสั่ง ไม่บรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 ของฝ่ายค้าน ปชป.ลงมติเห็นชอบหมดทั้ง 13 ฉบับ วงสัมมนา ส.ว.เช็กเสียงยืนกรานห้ามแตะ ม.272 หักดาบเลือกนายกฯ ไม่ขัดใช้บัตร 2 ใบ แต่ข้องใจ พปชร.มัดมือชกซุกรื้อ ม.144 กับ 185 ปลดล็อกปราบโกง “คำนูญ” ซัด 2 ขั้วสมประโยชน์เกมสมนาคุณพรรคใหญ่ ห่วงผูกขาดการเมือง “วันชัย” ฟันธงก้าวไกลหืดจับ-พรรคเล็กสูญพันธุ์ “บิ๊กป้อม” ยันไม่มีปรับ ครม.อัปเกรดเก้าอี้เลขาฯพรรค “ธรรมนัส” ยกหูเคลียร์ใจสามมิตรบอกมีมารยาทพอไม่ดูด ส.ส.มั่ว “เสรีพิศุทธ์” หอบหลักฐานคำพิพากษาศาลออสซีกับคำสารภาพจำเลย แจ้ง บช.ปส.จับ “ผู้กองนัส” คดียาเสพติด “ธรรมนัส” ลั่นเฉยๆ พร้อมสู้ทุกเวที

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยืนยันกรณีไม่บรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของฝ่ายค้าน เรื่องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่มีอะไรลับลมคมใน หรือใบสั่งจากรัฐบาลหรือฝ่ายใด แต่ยึดระเบียบและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำอย่างอื่นไม่ได้

“ชวน” ตรวจความพร้อมรัฐสภา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตรวจความพร้อมห้องประชุมพระสุริยัน ก่อนใช้ประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 22-24 มิ.ย. โดยนายชวนกล่าวว่าวันที่ 22 มิ.ย. ประชุมร่วมรัฐสภาสมาชิกกว่า 700 คนร่วมประชุม ต้องเพิ่มแท่นอภิปรายเสริมอีก 1 ที่ กลางห้องประชุม การลงมติกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรวม 13 ฉบับให้มีประสิทธิภาพในเวลาไม่นานเกินไป ทุกคนต้องพูดทั้ง 13 ฉบับว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทุกฉบับ ต้องยอมเสียเวลา มีระบบตรวจสอบบันทึกไว้ด้วย ส่วนแม่บ้านสภาฯติดโควิด-19 ประมาทไม่ได้ ทุกคนต้องระวังเข้มงวดกวดขัน อย่าเบื่อ

ไม่มีลับลมคมในไม่บรรจุญัตติ ม.256

จากนั้นนายชวนให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไม่บรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของฝ่ายค้าน เรื่องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่าเคารพความเห็นของทุกคน แต่ประธานมีหน้าที่ทำตามข้อบังคับและกฎหมายโดยเคร่งครัดว่าอะไรบรรจุได้หรือไม่ได้ ความจริงไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่บางคนอาจไม่ได้ดั่งใจจึงโวยวาย หากขัดต่อระเบียบและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำอย่างอื่นไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในกติกากฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด สุจริตและเปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน ไม่มีใครมายุ่งหรือสั่ง ไม่ว่ารัฐบาลหรือใคร บางครั้งมีบางญัตติไม่ตรงใจรัฐบาลด้วยซ้ำ เช่น ญัตติอภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ รัฐบาลเห็นว่าไม่ควรบรรจุ แต่ตนบรรจุเพราะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัย เป็นแค่ให้ความเห็น ยืนยันทุกอย่างตรงไปตรงมา ประธานรัฐสภาไม่มีสิทธิทำอะไรละเมิดกฎเกณฑ์

โวย “ชูศักดิ์-ชัยธวัช” ใส่ร้าย ปธ.สภา

นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล พรรคเพื่อไทย และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวหาให้ร้ายนายชวนด้วยถ้อยคำว่า “อย่าทิ้งภาระให้ลูกหลาน ประธานสภาฯอย่าขัดขวางรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ว่า ล้วนสร้างวาทกรรมบิดเบือนทั้งสิ้น ยืนยันนายชวนยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับเคร่งครัด เป็นกลาง ตรงไปตรงมา ให้เกียรติ เคารพทุกคน สร้างบรรทัดฐานของรัฐสภา ยึดมั่นหลักนิติธรรม นายชูศักดิ์เป็นครูบาอาจารย์ต้องย้อนไปดูหลักการรัฐธรรมนูญและข้อบังคับให้ชัด รวมไปถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ประกอบ ไม่ใช่คิดจะทำตามอำเภอใจโดยไม่มีหลัก พอไม่ได้ดั่งใจก็โวยวายไม่สมราคาฝ่ายค้าน ข้อเท็จจริงยุติว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 แก้ไขเพิ่มเติมให้มีหมวด 15/1 เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ย่อมมีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ชัดเจนว่าร่างฉบับนี้ยังไม่ตกไปตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 105 จะตกไปแค่ 2 กรณี คือ 1.รัฐสภาลงมติไม่รับหลักการ 2.รัฐสภาลงมติไม่เห็นชอบในวาระที่สาม เมื่อร่างยังไม่ตกไป หากต่อไปมีข้อกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ต้องพิจารณากันต่อไป

มติ ปชป.เห็นชอบทั้ง 13 ฉบับ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ ในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ แต่พรรคเป็นห่วงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พปชร. มาตรา 144 และมาตรา 185 ส.ส. หรือ ส.ว.ต้องไม่ก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ส.ส.พรรคหลายคนจะแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการ พรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้จำนวนมากในเวลา 1 ชั่วโมง 3 นาที

“คำนูณ” ชี้สมนาคุณพรรคใหญ่

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 13 ฉบับจาก 3 กลุ่มพรรคการเมือง คือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1 ฉบับ พรรคเพื่อไทย (พท.) 4 ฉบับ และพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค 8 ฉบับ จำแนกได้ 9 ประเด็น สรุปภาพรวม 3 ประเด็นคือ 1.สมนาคุณพรรคใหญ่ 2.ถอดปลั๊กรัฐธรรมนูญปราบโกง 3.ปิดสวิตซ์ ส.ว.เชื่อว่าประเด็นที่หวังผลเต็มร้อยคือการสมนาคุณพรรคใหญ่และถอดปลั๊กรัฐธรรมนูญปราบโกงที่อยู่ในร่างพรรค พปชร. มีโอกาสผ่านความเห็นชอบมากที่สุด มีอยู่ในร่างของทุกกลุ่ม ส่วนการถอดปลั๊กรัฐธรรมนูญปราบโกง แม้เสนอโดยพรรค พปชร.แต่ลึกๆแล้วทุกพรรคเห็นด้วย

ห่วงก่อปัญหาผูกขาดการเมือง

นายคำนูณกล่าวว่า ประเด็นปิดสวิตซ์ ส.ว.ไม่อาจหวังผลได้ ยากจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เสนอเพื่อรักษาวาทกรรมประชาธิปไตย ยังเห็นด้วยกับการตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯเหมือนเดิมจะลงมติเห็นชอบ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 144 และ 185 ที่ถอดปลั๊กรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ไม่สามารถ แยกลงมติเฉพาะประเด็นนี้ได้ เพราะถูกมัดรวมอยู่ในร่างพรรค พปชร. ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มีกฎเอื้อ 2 พรรคใหญ่ก่อให้เกิดวิกฤติใหญ่มาแล้ว ผูกขาดการเมืองไว้กับพรรคใหญ่ กลุ่มทุน และนักการเมืองอาชีพ ตัดหนทางพรรคทางเลือก แต่การจะคงระบบบัตรใบเดียวตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็เป็นปัญหา ควรใช้บัตร 2 ใบในระบบสัดส่วนผสมตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับ
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เคยยกร่างไว้เมื่อปี 2558

เชื่อบัตร 2 ใบทำพรรคเล็กสูญพันธุ์

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ในฐานะโฆษก กมธ.วิสามัญพิจาราร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ประชามติเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา ค้างพิจารณาวาระสองเพียง 15 มาตรา คาดว่าจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงจะลงมติวาระสามได้ ส่วนการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ พรรคการเมืองต้องการแก้ไขระบบเลือกตั้งเป็นหลัก ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบให้มี ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จะทำให้พรรคใหญ่ ทั้งพรรค พปชร.พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.จำนวนมาก ให้ใช้ฐานคะแนน 1% เป็นเกณฑ์ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คำนวณจากคะแนนที่เลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 30 ล้านเสียงฐาน 1% คือ 3 แสนเสียง พรรคเล็กคะแนนต่ำจะไม่ได้เข้าสภาฯอาจสูญพันธุ์ พรรคก้าวไกลถ้าไม่ได้ ส.ส.เขตจะได้บัญชีรายชื่อหรือไม่

ส.ว.ยืนกรานห้ามแตะ ม.272

ที่ห้องประชุมจันทรา วุฒิสภา จัดเสวนาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. กล่าวว่า ส.ว.ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าไม่เห็นด้วยร่างเกี่ยวข้องกับบทเฉพาะกาล เช่น มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ บังคับใช้เพียง 5 ปี ผ่านทำประชามติ ส.ว.ไม่ใช่เสียงชี้ขาดโหวตเลือกนายกฯ แต่เสียงชี้ขาดแท้จริงคือ ส.ส.ต้องรวมกันให้ได้เกิน 250 เสียง ส.ว.ไม่สามารถลงมติแย้งเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ได้ ส่วนใหญ่จึงเห็นตรงกันไม่ควรแก้ไขมาตรา 272 ร่างของฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.

ไม่ขัดบัตร 2 ใบอัดปลดล็อกปราบโกง

พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า การกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบส่วนใหญ่ไม่ขัดข้อง แนวโน้มน่าจะให้ความเห็นชอบมาตรานี้ทุกร่าง ที่มีการพูดถึงมากคือ มาตรา 144 กับมาตรา 185 ที่รัฐธรรมนูญห้าม ส.ส. และ ส.ว.ไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงกับการแปรญัตติงบฯ ร่างแก้ไขของพรรค พปชร.ขอแก้ไขตัดข้อความให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้กระทำความผิดทิ้งไป ส.ว.หลายคนไม่เห็นด้วยตัดบทลงโทษเรื่องการเพิกถอนสิทธิของผู้กระทำผิดทิ้งไป มองว่าเป็นการปลดล็อกปราบโกง เจตนามาตรา 144 ต้องการป้องกันไม่ให้แทรกแซงนำงบฯลงพื้นที่ตัวเอง ขอให้จับตาดู แต่ร่างของพรรค พปชร.มัดรวมทุกเรื่อง ทั้งบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และมาตรา 144 เข้าไว้ในร่างเดียวกัน ถ้าไม่ให้ผ่านแค่ประเด็นเดียวมีผลให้ตกไปทั้งร่าง ดังนั้น ส.ว.ส่วนใหญ่อนุโลมให้ผ่านไปก่อนแล้วไปแก้ในชั้นแปรญัตติ ส่วนการแก้ไขมาตราอื่นๆ เช่น การเพิ่มสิทธิเสรีภาพประชาชน ขึ้นอยู่กับ ส.ว.แต่ละคน พิจารณาลงมติ

“ไพบูลย์” แจงร้อง ป.ป.ช.เอาผิดได้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรค พปชร. กล่าวว่า กรณี ส.ว. และองค์การต่อต้านคอร์รัปชันคัดค้านการแก้ไขมาตรา 144 และ 185 ตัดบทลงโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ที่แทรกแซงการแปรญัตติงบฯ มีกระบวนการ ป.ป.ช.เอาผิดตาม ป.อาญามาตรา 157 ได้อยู่แล้ว ยืนยันไม่ได้แก้ไขให้ ส.ส.แปรญัตติงบฯเข้าพื้นที่ตัวเอง ไม่กังวลข้อทักท้วง ส.ว.จะทำให้ร่างพรรค พปชร.ไม่ผ่านวาระรับหลักการ เพราะ ส.ว.ที่ทักท้วงเป็นกลุ่มเห็นด้วยกับการให้ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มั่นใจไม่มีปาหี่ หากรัฐสภารับหลักการร่างจะตั้งกรรมาธิการพิจารณา 45 คน มี ส.ว. 15 คน และ ส.ส. 30 คน

“บิ๊กป้อม” ให้วัดด้วยเสียงในสภาฯ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า เป็นเรื่องของ ส.ส.ยังไม่ได้ประชุมพรรค เมื่อถามถึง ส.ว.บางคนระบุพรรคการเมืองแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ประโยชน์อะไร ผมไม่รู้ ต้องถามว่าประโยชน์อะไร ทุกคนทำงานให้ประชาชน ทุกพรรคหวังทำประโยชน์ให้ประชาชน ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้มีความเจริญทั้งนั้น” เมื่อถามว่า ส.ว. ออกมาติงตั้งแต่ต้นจะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีหรอก ต้องดูตามเสียงที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถ้าเสียงมากก็ได้ เสียงน้อยก็ไม่ได้ว่าไป ส่วนมวลชนกลุ่มต่างๆจะมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 24 มิ.ย. ก็ทำตามกฎหมาย จะชุมนุมอย่าทำผิดกฎหมาย เมื่อถามว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากหรือไม่ และประกาศค้างคืนด้วย พล.อ.ประวิตรตอบว่า ยังไม่รู้ ต้องไปถามผู้ชุมนุมดู ว่ากันไป แต่อย่าทำผิดกฎหมายแล้วกัน ผิดกฎหมายอะไรไม่ได้

ยันไม่มีปรับ ครม. ยกชั้นเลขาฯพรรค

เมื่อถามว่าการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ จะทำให้ชนะเลือกตั้งในครั้งหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เหตุการณ์ข้างหน้ายังไม่รู้ เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสระบุการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส. 200 เสียง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไปถามเลขาธิการพรรคคนใหม่ เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพปชร.จะเป็นพรรคอันดับหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรหัวเราะในลำคอ แต่ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสมาเป็นเลขาธิการพรรคการทำงานจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องสมาชิกเขาเลือก จะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครจะได้ การทำงานมันก็คล่องตัวทั้งนั้นไม่ว่าใครก็ทำงานให้พรรค เมื่อถามว่าเลขาธิการพรรคต้องขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่เกี่ยว คนละเรื่องกัน คนเป็นรัฐมนตรีเป็นคนมีความสามารถทำงานให้ประชาชน เมื่อถามว่ายังไม่มีการปรับ ครม.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่าไม่มีหรอก

“ธรรมนัส“ ยกหูเคลียร์ใจสามมิตร

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค กล่าวตอนหนึ่งในที่ประชุมพรรคว่า ได้โทรศัพท์ไปหาบุคคลที่สื่อเสนอข่าวว่ามีความขัดแย้งกันทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กรรมการบริหารพรรค ยืนยันไม่มีความขัดแย้งกัน

มีมารยาทพอไม่จีบมั่ว ส.ส.เพื่อไทย

ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ถึงกรณีระบุว่า จะนำพลังประชารัฐขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวว่า เราต้องสร้างทิศทาง ทำดีแล้วทำต่อไป ที่ยังไม่ทำจะเริ่มทำ เมื่อถามว่าภาคอีสานเหมือนเป็นจุดอ่อนได้ทาบทาม ส.ส.พรรคเพื่อไทยไว้บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ตนมีมารยาท ถ้าไม่จำเป็นเราไม่เอา ต้องสมัครใจไม่เป็นที่ครหา ไม่เป็นข้อพิพาทระหว่างพรรค เมื่อถามว่าฝ่ายค้านยังกังขาเรื่องคุณสมบัตินั่งเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า พร้อมถูกตรวจสอบ เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบในแต่ละเรื่องแล้วคนที่ไปร้องเรียนต้องยอมรับในกติกา เล่นการเมืองทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ สาดโคลนกัน

ชทพ.ชิ่งไม่ร่วมหั่นอำนาจ ส.ว.

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงข้อวิจารณ์การแก้รัฐธรรมนูญมุ่งแต่ประโยชน์นักการเมืองว่า แก้รัฐธรรมนูญแบบใด ต้องมีคนกลุ่มหนึ่งได้รับประโยชน์ อีกกลุ่มเสียประโยชน์ มีข้อดีและข้อด้อย แต่ละห้วงสถานการณ์ประเทศเปลี่ยนไป ส่วนการยกเลิกมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ เราไม่ได้ลงนามแก้ไขกับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย เป็นประเด็นอ่อนไหวไปสู่ความขัดแย้งขอพักไว้ก่อน

ไทยสร้างไทยย้ำโละทิ้ง รธน.60

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จุดยืนพรรคเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน วิกฤติประเทศเกิดขึ้นจากการเขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดเผด็จการ ขอทวงคำมั่นสัญญาทุกพรรคถ้าจริงใจขอให้ไปทำประชามติคืนอำนาจให้ประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญ นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 60 ควรแก้ทั้งฉบับ ไม่ควรให้พรรคที่มีส่วนได้เสียตัดสินใจ ดีที่สุดคืนอำนาจให้ประชาชนไปร่างรัฐธรรมนูญ ออกแบบจำนวน ส.ส. และระบบการเลือกตั้งใหม่

“เสรีพิศุทธ์” แจ้งจับ “ธรรมนัส” คดี “แป้ง”

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนตำรวจปราบปรามยาเสพติด ให้เอาผิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กรณีครอบครองเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัมเพื่อจำหน่ายและส่งออกเมื่อปี 2536 โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออกยาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลีย ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี เมื่อปี 2536 แม้จะไม่สิ้นสุดสถานการณ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเป็นคำพิพากษาต่างประเทศ ในฐานะ ส.ส.มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล ต้องปกป้องผลประโยชน์ประชาชน จะปล่อยผู้ทำผิดไม่ได้รับการลงโทษมิได้ ต้องตรวจสอบให้เป็นที่ยุติตามกฎหมาย

งัดคำสั่งศาลออสซี-คำสารภาพมัด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เบื้องต้นนำหลักฐานคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย คำรับสารภาพ ร.อ.ธรรมนัส เขียนด้วยลายมือตัวเองยอมรับรู้เห็นการนำเข้ายาเสพติด แต่ไม่ได้กระทำผิดข้อหาผลิตยาเสพติด พร้อมกับพยานหลักฐานจากชั้น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการประสานกลับเข้าประเทศไทยของ ร.อ.ธรรมนัส หลังจากรับโทษเสร็จสิ้นปี 2540 ของเลขาธิการ ป.ป.ส. และปลัดกระทรวงการต่างประเทศสมัยนั้น ที่ระบุชัดเจนว่ากลับเข้าประเทศเนื่องจากรับโทษในคดีรู้เห็นการนำเข้ายาเสพติดที่ออสเตรเลียมามอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย

อายุความเหลือ 2 ปีอย่าแทรกแซง

“คดี ร.อ.ธรรมนัสเมื่อกลับมาประเทศไทยต้องถูกดำเนินคดีและไต่สวนความผิดจากศาลไทย อยากให้กระบวนการยุติธรรมไทยเป็นผู้ตัดสินความผิด แม้คดีนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2536 แต่คดีมีอายุความ 30 ปี เหลืออายุความอีก 2 ปี เชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะหาพยานหลักฐานในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ถ้าทำไม่เสร็จ พนักงานสอบสวนจะเป็นฝ่ายเจ็บตัวเอง และไม่อยากให้มีอิทธิพลหรืออำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสอบสวนของพนักงานสอบสวน รวมถึงอัยการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไม่ควรเข้ามาแทรกแซงคดีนี้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

“ผู้กองนัส” บอกเฉยๆพร้อมสู้

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “เฉยๆ เพราะถูกกระทำมา 2 ปีกว่าเต็มๆ เข้าสู่กระบวนการทดสอบมาทุกจุด ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้ง ป.ป.ช. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมถูกตรวจสอบ และพร้อมสู้ แต่ไม่ได้โกรธ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะฝ่ายนิติบัญญัติต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ อย่าไปเครียด ถ้าเล่นการเมืองแล้วเครียดเรื่องสาดโคลนไปไม่รอด ไม่ทำลายอุดมการณ์ของตนได้

ท้า “บิ๊กตู่” 120 วันเปิด ปท.ไม่ได้ออกไป

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่นายกฯประกาศเป็นเหมือนสัญญาประชาคมว่า จะเปิดประเทศไทยใน 120 วัน ตรงกับวันที่ 14 ต.ค. และจะมีวัคซีน 105.5 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชนก่อนเปิดประเทศ อยากให้สำเร็จเศรษฐกิจไทยจะได้เริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้าง แต่นายกฯล้มเหลวในการบริหารและผิดคำพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก อยากให้รักษาสัญญาประชาคมโดยเอาตำแหน่งนายกฯมาเป็นประกัน หากทำไม่ได้หรือล้มเหลวอีกต้องประกาศไม่ดำรงตำแหน่งอีกต่อไปทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

“พี่โทนี่” จัดเบิร์ธเดย์ 54 ปี “น้องปู”

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กเนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 54 ปี ว่า “ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรที่ส่งมาเนื่องในวันคล้ายวันเกิดในปีนี้นะคะ แม้จะมีเรื่องราวต่างๆเข้ามามากมายแต่ทุกท่านยังคิดถึงและส่งใจมา บ้างก็ส่งของขวัญจากเมืองไทยมา บางท่านทำบุญ ถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาให้แทน รวมถึงกลุ่มแฟนเพจทำกิจกรรมดีๆมากมายให้ รู้สึกสัมผัสได้ถึงความผูกพันที่เรามีต่อกันมาอย่างยาวนาน ขอให้พรที่ดิฉันได้รับในวันนี้โปรดส่งกลับไปให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านพ้นทุกข์ ผ่านปัญหาอุปสรรค ทั้งทางเศรษฐกิจและโรคภัยไข้เจ็บให้ทุกท่านโชคดี มีสุขภาพแข็งแรง กิจการเจริญรุ่งเรืองนะคะ และสุดท้ายต้องขอขอบคุณพี่ชายที่แสนดี “พี่โทนี่” (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ที่กรุณาจัดวันเกิดให้น้องสาวในปีนี้ และที่พิเศษสุดคือมีลูกชายสุดที่รักอยู่เคียงข้าง หลังจากที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายปีในวันเกิด ขอบคุณครอบครัวหลานเอมและหลานอิ๊งที่พาหลานน้อยๆมาเติมความสุขความอบอุ่นให้อาในปีนี้ด้วยนะคะ”

บช.น. ห้ามม็อบรวมตัวรำลึก 24 มิ.ย.

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยถึงการนัดชุมนุมในวันที่ 24 มิ.ย. ว่า มีกลุ่มต่างๆ ได้แก่ กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดยนายชาติชาย ไพริน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ จัดกิจกรรมรำลึกเหตุการอภิวัฒน์ สยาม 2475 กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิธิธร ล้ำเหลือ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดยนายเจษฎา ศรีปรั่ง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มคนไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศ ไทย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ หน้าทำเนียบรัฐบาล บช.น.ยืนยันว่า กทม.เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุม ตามมาตรา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขอผู้ร่วมชุมนุมงดจัดกิจกรรม และชุมนุมโดยเด็ดขาด วิงวอนขอให้เห็นแก่บ้านเมือง ขอให้สถานการณ์โควิดผ่านไปก่อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมไว้ดูแลการชุมนุมทุกสถานการณ์

ยันซื้อแอร์บัสก่อนยุคโควิด

อีกเรื่อง กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกระทรวงกลาโหมลงนามคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสซี 295 เพิ่มเติมเข้าประจำการในกองทัพรวมทั้งสิ้น 3 ลำนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่า โครงการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัสซี 295 จำนวน 3 ลำ ราคาลำละ 1,200 ล้านบาท ของ ทบ.มีมาก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 เป็นงบผูกพัน โดยลำแรกส่งมอบในสมัย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เป็น ผบ.ทบ.ลำที่ 2 ส่งมอบสมัย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ลำล่าสุดที่ปรากฏเป็นข่าวจะส่งมอบในปี 2566 โดยทยอยชำระเป็นงวดๆ ทั้งเครื่องบินแอร์บัสซี 295 ใช้ปฏิบัติภารกิจลำเลียงกำลังพล ฝึกยุทธวิธี ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย ที่ผ่านมาใช้บินขนส่งบุคลากรทางการแพทย์ และวัคซีนโควิด-19 ไปยัง จ.เชียงใหม่ ให้กับประชาชน

ที่มา:thairath