วันที่ 25 เม.ย.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม น.ส.สุวรรณอำภา หรือ ปลา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงราชบุรี ที่ จ.52/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 ข้อหา “ฉ้อโกง และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากได้รับข้อมูลว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลย่านพญาไท พบผู้ที่ใช้ชื่อว่า สุวรรณอำภา (ขอสงวนนามสกุล) ปลอมบัตรประจำตัวบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล บัตรประจำตัวที่ปลอมขึ้นมานั้น เป็นบัตรรุ่นเก่าของคณะ ไม่ได้ใช้แล้วในปัจจุบัน
โดยนำบัตรดังกล่าวไปใช้ในการแอบอ้างตนเองว่าเป็นศัลยแพทย์ระบบสมองของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล และนำไปหลอกลวงเอาเงินจากคนไข้และเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลหลายราย
โดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลดำเนินการตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีบุคคลที่ใช้ชื่อดังกล่าวเป็นบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล และไม่ใช่ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล ซึ่งทำให้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลได้รับความเสียหาย
ต่อมา สืบนครบาล ได้ตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ น.ส.สุวรรณอำภา หรือ ปลา อายุ 35 ปี มีหมายจับติดตัวของศาลแขวงราชบุรี โดยพฤติการณ์คือ เมื่อประมาณเดือน ม.ค.2563 ขณะที่ผู้เสียหายใช้เฟซบุ๊กและได้มีบัญชีผู้ใช้งาน เฟซบุ๊กชื่อ “ข้อมูล ส่วนตัว” ได้เพิ่มเพื่อนทางเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย
จากนั้นเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ทักข้อความมาพูดคุยและแนะนำตัวว่าเป็นแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ชื่อว่า น.ส.สุวรรณอำภา ผู้เสียหายก็พูดคุยกันมาเรื่อย ๆ จนได้คบหากัน โดย น.ส.สุวรรณอำภาจะเดินทางมาหาผู้เสียหายที่ อ.เมืองราชบุรี ทุก ๆ สัปดาห์ ครั้งละประมาณ 2 วันแล้วก็จะนั่งรถโดยสารกลับไปกรุงเทพฯ
โดยบอกผู้เสียหายว่า จะไปทำงานที่โรงพยาบาลดังกล่าว และบางสัปดาห์ผู้เสียหายจะขับรถไปรับที่หน้าโรงพยาบาล แล้วก็ไปส่งด้วย เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาที่คบหากัน
ต่อมาประมาณเดือนเม.ย.2566 ผู้เสียหาย และ น.ส.สุวรรณอำภา ได้เลิกรากันแต่ปรากฏว่าช่วงก่อนที่จะเลิกกันนั้น น.ส.สุวรรณอำภา ได้มาขอให้ผู้เสียหายหาเงินประมาณ 300,000 บาท อ้างกับผู้เสียหายต้องใช้เงินในการชดใช้ให้ญาติคนตายที่ได้เป็นคนผ่าตัดแล้วเสียชีวิตลง
ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จึงเอาเงินผู้เสียหายโอนให้ไปจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินมูลค่าเสียหายทั้งสิ้น 1,283,620 บาท ซึ่งต่อมาผู้เสียหายพบว่า น.ส.สุวรรณอำภา ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับโรงพยาบาลรามาธิบดีและไม่ได้เป็นแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรามาธิบดีแต่อย่างใด
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ยื่นต่อศาลขออนุมัติหมายจับ และสืบนครบาลได้ติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหาขณะที่แต่งกายในชุดบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯและมีชื่อของผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษที่หน้าอกเสื้อด้านซ้ายอีกด้วยได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา ไม่เคยประวัติการตั้งโทษหรือเคยถูกจับมาก่อน จากนั้นได้นำตัวส่ง สภ.เมืองราชบุรี ครับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา – ข่าวสด