หลังนายกรัฐมนตรี สั่งปิดแคมป์ก่อสร้าง..แรงงานเขมรทะลักแห่กลับประเทศวันแรก 200 คน เพิ่มขึ้นเท่าตัว พบนายจ้างนำมาทิ้งรายทาง จนท.ตม.กาบเชิงต้องเร่งกวาดต้อนรวมมาจุดเดียวหวั่นโควิด 19 ระบาด วอนนายจ้างส่งแรงงานที่ สนง.ตม.กาบเชิงที่เดียวเท่านั้น ขณะที่แรงานก่อสร้างชาวสุรินทร์แห่กลับบ้าน วันเดียวติดเชื้อใหม่เพิ่ม 14 ราย

วันนี้(27 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงพร้อมทีมแพทย์ หลังเรียกประชุมร่วมกับศปก.ศบค. ว่า การประชุมวัน(25 มิย.64) ถือเป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่งรัฐบาลและสาธารณสุขมีความเป็นห่วงประชาชน โดยสถิติการแพร่ระบาดและติดเชื้อยังคงสูงทุกวัน จึงยังมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ ทั้งการตรวจสอบเชิงรุก การจัดหาวัคซีน พร้อมกับเตรียมแผนฉีดตรงเป้าหมายและสถานการณ์ โดยในเดือน ก.ค. และ ส.ค. จะเร่งฉีดผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ที่มียอดผู้รับวัคซีนที่ลงทะเบียนชัดเจน นายกรัฐมนตรี บอกว่า ได้สั่งการให้มีการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลรวมไปถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย สงขลา ,นราธิวาส, ยะลาและปัตตานี ที่มีการแพร่ระบาด โดยให้กระทรวงแรงงานจ่ายเงินชดเชยเยียวยาและดูแลทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว มาตรการดังกล่าวจะทดลองใช้เป็นเวลา 1 เดือน ขณะเดียวกันก็จะมีการจำกัดการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด แต่ยังไม่ใช่การล็อคดาวน์ ไม่มีการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน แต่จะมีการประกาศมาตรการเฉพาะละพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลและ 4 จังหวัดภาคใต้ ออกมาในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ เพื่อบังคับใช้ในระยะเวลา 1 เดือน เริ่มในวันจันทร์ ที่ 28 มิถุนายนนี้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวทำให้แคมป์ก่อสร้างหลายแห่งเริ่มปิดแล้ว แรงงานต่างๆเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย แม้กระทั่งแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่พบว่านายจ้างได้ส่งกลับ โดยใช้เส้นทางผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในการเดินทางข้ามกลับไปยังประเทศกัมพูชา แต่พบว่านายจ้างกลับนำแรงงานชาวกัมพูชามาทิ้งไว้ตามข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณข้างทาง หน้าตลาดโอท็อป อบจ.สุรินทร์ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และอีกหลายจุด ทำให้ เจ้าหน้า ตม.กาบเชิง ต้องเร่งกวาดต้อนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ถูกนายจ้างนำมาทิ้งข้างทางไปรวบรวมไว้ในจุดเดียวที่ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ใกล้กับที่ว่าการ อ.กาบเชิง อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะมีแรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 นำมาแพร่กระจายให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยจุดรวบรวมและซักประวัติก่อนตรวจหาเชื้อแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง มีการล้อมผ้าแสลนพร้อมติดป้ายอันตรายห้ามเข้าอย่างเป็นสัดส่วน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ เนื่องจากที่ผ่านมา จนท.ตม..กาบเชิง แม้จะมีมาตรการป้องกันตนเองที่รัดกุม แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว 3 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กาบเชิง

ทั้งนี้ จนท.ตม.กาบเชิง นายหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่พบว่า มีแรงงานชาวกัมพูชา เดินทางกลับประเทศกัมพูชาจำนวนมากกว่าปกติถึงเท่าตัว ประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานก่อสร้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีมาตรการเข้มในการควบคุมแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในพื้นที่จำกัด ตั้งแต่นายจ้างส่งมาถึง ทำการซักประวัติและตรวจหาเชื้อ ไปจนถึงการผลักกันกลับประเทศ ไม่ให้ออกนอกเส้นทางเกรงจะมีเชื้อและนำไปติดประชาชนในพื้นที่ โดย เจ้าหน้าที่ใช้ทั้งรถยนต์กระบะ รถบรรทุก 6 ล้อ รถควบคุมผู้ต้องหา และรถบัส ในการขนส่งแรงงานต่างด่าวและสัมภาระเพื่อผลักกันออกไป อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือนายจ้างหรือโชว์เฟอร์ที่ขับรถมาส่งแรงงานต่างด้าว ให้นำแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาไปส่งที่ สนง.ตม.กาบเชิง เพียงจุดเดียวด้วยเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมโรคและผลักดัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.64) จากข้อมูลของ จ.สุรินทร์พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และแรงงานก่อสร้างเริ่มเดินทางกลับบ้าน ทำให้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 14 ราย ประกอบด้วย ชาว ต.เพี้ยราม อ.เมือง เดินทางกลับ 3 คน ไปตรวจที่ รพ.จอมพระ อ.จอมพระ ผลบวกทั้ง 3 คน,ต.ราม อ.เมือง กลับมา 1ราย ป่วยติดเชื้อ 1 ราย,ต.สลักได อ.เมือง กลับมา 2 ราย ป่วยติดเชื้อ 2 ราย อ.ปราสาท ติดเชื้อ 4 ราย,อ.ชุมพลบุรี ติดเชื้อ 2 ราย,อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) ติดเชื้อ1 ราย และ อ.เขวาสินรินทร์ (เขวา-สิน-นะ-ริน) ติดเชื้อ 1 ราย ส่วน ต.สวาย อ.เมือง กลับมา 7 คน ขณะนี้ดำเนินการตรวจโรคและให้ไปกักกันตัวที่บ้าน รอผลตรวจ ทั้งนี้ ต.รามและ ต.สลักได ไม่ปฏิบัติตัวตามมาตรการ ทำให้เกิดความเดือดร้อน กระทบครอบครัวตนเองและชุมชน จ.สุรินทร์ จึงขอให้ทุกท่านช่วยติดตามงานนี้อย่างเข้มข้นและเร่งด่วนด้วยวันนี้เริ่มมีคนงานก่อสร้างและประชาชนจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มข้น พื้นที่ควบคุมสูงสุด (4+11จังหวัด) เดินทางกลับมาบ้านในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน ขอให้ประสานงานกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน / อสม. /ผู้นำชุมชน ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เดินทางมาให้กักกันตัว14 วัน และให้แนะนำการกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด แล้วรายงานข้อมูล การติดตามให้อำเภอทราบด้วย

ที่มา MATICHON