ออสเตรเลียกำลังเผชิญโควิดระบาดครั้งใหม่ พบผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่พร้อมกันทั่วประเทศครั้งแรกในรอบหลายเดือน ขณะที่จำนวนชาวออสเตรเลียยกเลิกนัดฉีดวัคซีนพุ่ง หวั่นผลข้างเคียง
เมื่อ 28 มิ.ย.64 สำนักข่าวบีบีซีรายงานทางการออสเตรเลียเตรียมรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ขณะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศในเวลาพร้อมๆ กันเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
จอช ฟรายเดนเบิร์ก รมว.คลังของออสเตรเลียกล่าวด้วยความกังวลว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับช่วงเวลาวิกฤติในการต่อสู้กับโควิด-19 ขณะที่มีหลายรัฐต้องปิดพรมแดนและมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มครั้งใหม่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ‘ผมคิดว่าเรากำลังเข้าสู่เฟสใหม่ของการระบาด ซึ่งเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่กระจายติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า’ นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวกับนักข่าว ABC News
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในนครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 5.3 ล้านคน และนับเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องและเป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ในซิดนีย์ เพิ่มเป็น 128 รายแล้ว
ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศล็อกดาวน์นครซิดนีย์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. จนถึงวันที่ 9 ก.ค.64 หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตารายใหม่ 30 รายต่อวัน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดย เกลดีส์ เบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในซิดนีย์กำลังสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนอยู่แต่ภายในที่พักอาศัยตามมาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน บีบีซีเผย มีรายงานจากแพทย์ในออสเตรเลีย ระบุว่า ขณะนี้จำนวนชาวออสเตรเลียวัยผู้ใหญ่มีการยกเลิกนัดที่จะมาเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิดของแอสตราเซเนกามากขึ้น หลังจากรัฐบาลออสเตรเลียได้มีการเพิ่มคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับวัคซีนแอสตราเซเนกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกำหนดว่าผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาต้องมีอายุตั้งแต่ 60 ปีเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือด พร้อมกับแนะนำให้ชาวออสเตรเลียที่อายุต่ำกว่า 60 ปี เลือกฉีดวัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์
ที่มา:thairath