เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน รายงานข่าวว่า นายสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอบางกล่ำ และ พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ และ พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ รอง ผบ.มทบ.42/รอง ผอ.รมน.จ.สงขลา นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองครอง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ตำรวจ สภ.บางกล่ำ ตม.จ.สงขลา และทหาร มทบ.42
เข้าตรวจสอบ และควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว 12 คน ในป่าเลาะเมาะ ม.5. หนองขวน ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ พบว่า เป็นชาวเมียนมาทั้งหมด 12 คน เป็นชาย 7 คน และหญิง 5 คน พร้อมกับมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและสัมภาระติดตัวต่างๆอีกส่วนหนึ่ง พร้อมกับเอกสารประจำตัว
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้ลักลอบเดินทางเข้าไปทำงาน และอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย มาแล้วระยะหนึ่ง กระทั่งต้องการเดินทางกลับประเทศเมียนมา จึงติดต่อนายหน้าเป็นชายชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อให้ช่วยเหลือในการเดินทางกลับประเทศเมียนมา โดยเดินทางผ่านประเทศไทย และใช้ช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ในการลักลอบผ่านแดนเข้ามา
คิดค่าจ้างเป็นเงิน 3,500 ริงกิต หรือเกือบ 3 หมื่นบาท ต่อคน ในการพาเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อประมาณ 4 วัน ที่แล้ว จนกระทั่งวันนี้ระหว่างซุกซ่อนตัว ถูกตรวจพบ และจับกุมได้เสียก่อน โดยที่ยังไม่ทันได้ข้ามเขต จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผยว่า ในแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมดนั้น มี 1 คน คือ นายไข่ สิน ทุน อายุ 33 ปี ถูกแจ้งข้อหา “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และ “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
เป็นผู้ที่นำพาแรงงานต่างด้าวเหล่าหลบหนีออกมาจากมาเลเซีย เข้ามายังประเทศไทย เพื่อไปส่งยังชายแดนเมียนมา ส่วนที่เหลือ 11 คน นั้น ถูกข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
หลังจากสอบสวนในเบื้องต้นแล้วเสร็จ ได้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าทำการสวอปเก็บตัวอย่างไปตรวจหาเชื้อโควิดหมดแล้วทุกคน ทำประวัติ และควบคุมตัวทั้งหมดไปทำการกักตัวดูอาการในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ภายในค่ายท่านมุก ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอตรวจเช็คอาการให้แน่ใจว่า จะติดเชื้อโควิดมาด้วยหรือไม่
ที่มา MATICHON