ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ แจงปม ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ระบุ เป็นภาพจริง ยันไม่ได้เบียดบังวัคซีนหลัก เอาเศษจากโดสที่เหลือ 1-2 โดสต่อขวดมาฉีด
วันที่ 26 ก.ค.2564 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์) กล่าวถึงกรณีโซเชียลมีเดีย เผยแพร่การฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ว่าเป็นประเทศบุรีรัมย์หรือไม่ ที่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทั้งที่มีคนอีกเป็นจำนวนมากยังไม่ได้ฉีดเข็มที่ 1 จนมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ว่า ภาพที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นภาพและเรื่องจริง เป็นการฉีดเข็ม 3 สภ.แรก จาก 9 สภ. ที่กำลังจะฉีดในโอกาสต่อไป หรือประมาณ 99 นายของตำรวจชุดนี้
พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ตั้งโครงการขึ้นมาชื่อว่า “โครงการทำดีด้วยหัวใจ สู้ภัยโควิดด้วยศัทธา” โดยให้ตำรวจทุกสภ.สมัครใจเข้ามาเป็นอาสา ไปรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียวที่พื้นที่สีแดง กลับมารักษาตัวที่บุรีรัมย์ ซึ่งมีโรงพยาบาลสนามรองรับไว้แล้ว
พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวอีกว่า โดยมีตำรวจสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 9 สภ. แต่ละ สภ. จะตั้งเป็นกลุ่ม ๆ ละ 11 นาย ในนี้มีหัวหน้าชุด 1 นาย หน้าที่หลักคือต้องขับรถขนผู้ต้องหาของตำรวจ ซึ่งจะมีห้องแยกระหว่างคนขับกับผู้โดยสารชัดเจน โดยไม่ต้องไปดัดแปลงรถ ไปรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่สีแดง กรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ต้องเป็นผู้ป่วยระดับสีเขียว อาการไม่หนัก กลับมารักษาตัวที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยที่ไม่มีเตียงรักษา
ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตำรวจชุดนี้ถือเป็นกลุ่มด่านหน้า มีความเสี่ยงสูง ซึ่งตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะต้องมีการฉีดเข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ดังนั้นตำรวจชุดนี้ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้ามีความเสี่ยงสูงชัดเจน
“หลังจากโครงการได้เริ่มขึ้นมา ได้ไปรับผู้ป่วยกลับมารักษาที่บุรีรัมย์แล้ว 40 คน ทั้งนี้ วัคซีนที่นำมาฉีดให้กับตำรวจ ไม่ใช่วัคซีนที่ไปเบียดบังเอาวัคซีนหลักมาฉีด แต่เป็นวัคซีนที่เหลือเศษจากขวดวัคซีน ประมาณ 1-2 โดสต่อขวด เพราะวัคซีนแต่ละขวดจะมีปริมาณมากกว่า 10 โดสอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนให้กับตำรวจที่ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ซึ่งเป็น สภ.แรกที่นำร่องการฉีดให้กับบุคคลากรด่านหน้า ซึ่งจะต้องทำการฉีดตำรวจชุดนี้ที่เหลืออีกต่อไป ด้วยการเอาวัคซีนที่เหลือจากก้นขวดมาฉีด ยืนยันไม่ได้เบียดบังเอาวัคซีนหลักมา” พล.ต.ต.รุทธพล กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : ข่าวสด