สุดาพร สีสอนดี ขุนพลเสื้อกล้ามกำปั้นหญิง ทีมชาติไทย ขึ้นสังเวียนพบ ปาลาซิออส เอสปิโนซ่า มาเรีย โฮเซ่ จากเอกวาดอร์ ในมวยสากลสมัครเล่นหญิง รุ่นไลต์เวต พิกัด 60 กก. โตเกียวเกมส์ 2020 เมื่อวันอังคาร ที่ 27 ก.ค.64
มวยหญิง การชกกติกา 3 ยก (ชก 3 พัก 1 นาที) สวมเฮดการ์ด “เจ้าแต้ว” สุดาพร ขึ้นเวทีทางมุมแดง เป็นมวยถนัดซ้าย(เซาธ์ปอว์) ขณะที่ ปาลิซิออส นักชกสาวผิวสีแทนจากเอกวาดอร์ วัย 22 ปี มวยขวา ขึ้นมาทางมุมน้ำเงิน ผู้ตัดสินชาวโมร็อกโก
ยกแรก เจ้าแต้วแย๊ปซ้ายกระแทกทักทายก่อน ตามด้วยหมัดหนึ่งสองได้แม่นยำ สาวหล่อของไทยขยับบวกจังหวะสองล่างสลับบนได้จะแจ้ง ขณะที่ปาลาซิออสตอบโต้ได้ไม่ถนัด ช่วงปลายยกนักชกไทยยิ่งมั่นใจ ทิ้งการ์ดหลอกล่อลักต่อยได้อีกแทบจะข้างเดียว หมดยกแรก เจ้าแต้วมีแต้มนำ 4-1 เสียง
ยกสอง สุดาพร ยิ่งมั่นใจต่อยซ้ายขวาแล้วฉากหนีออกข้าง ปาลาซิออสหันมาเน้นขว้างหมัดขวาเข้าหน้าได้หนึ่งที แต่ก็ถูกสุดาพรดักต่อยลำตัวเป็นชุดเรียกคะแนนคืนได้หมด ผ่านไปครึ่งทางกลายเป็น นักชกไทยแทบจะหลอกต่อยเต้นฟุตเวิร์กสอนเบสิกมวยเอาทีเดียว หมดสองยก เจ้าแต้วยังคงทำแต้มนำทั้ง 5 เสียง
ยกสาม สุดาพร ชกได้ง่ายขึ้น ทั้งออกหมัดชุดแล้วฉากหนีออกข้างไปรอบๆเวที ขณะที่ ปาลาซิออส ทำอะไรได้ไม่ถนัด ยิ่งเข้าหาก็ยิ่งโดนสวนกลับ
ครบสามยก “เจ้าแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ชนะคะแนน ปาลาซิออส เอสปิโนซ่า มาเรีย โฮเซ่ จากเอกวาดอร์ ไปอย่างง่ายเอกฉันท์ขาดลอย 5-0 เสียง
ชัยชนะนัดนี้ ส่งผลให้ สุดาพร นักชกจากอุดรธานี วัย 28 ปี ลอยลำเข้ารอบ 16 คน ไปพบ บาสส์ ซิมรันจิต คาอูร์ จาก อินเดีย ดีกรีรองแชมป์เอเชีย ที่ได้บายรอบแรก
และถือเป็นผลงานสุดสวยของทีมกำปั้นไทย 4 คน (ชาย 1 หญิง 3)คว้าชัยชนะรวดทั้งหมด