วันนี้ ( 28 ก.ค.)นายนพกัญจน์ ใจอารีย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน พิษณุโลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงนี้การแพร่ระบาดของโควิดรุนแรงมาก และติดเชื้อได้ง่าย จึงอยากจะขอความร่วมมือผู้ป่วย และผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ในการตอบคำถามและให้ข้อมูลจริง เพื่อสะดวกในการช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ในการปฏิบัติหน้าที่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้สวมชุดป้องกันที่ถูกต้องตามมาตรการสาธารณสุข ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือทุกครั้งจะสอบถามผู้ป่วย ก่อนว่า มาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ หรือป่วยเป็นโควิดหรือไม่
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าไปช่วยเหลืออุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ในบริเวณ ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ก็สอบถามผู้บาดเจ็บซึ่งมีภูมิลำเนาต่างจังหวัด ว่าได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ มีไข้ ตัวร้อน ไอ หรือไม่ ผู้ป่วยตอบไม่ทุกครั้ง ทำให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือต่างนิ่งนอนใจ พาส่งโรงพยาบาลเสร็จสิ้นทุกอย่าง แต่สุดท้ายแพทย์โทรกลับมายังเจ้าหน้าที่กู้ภัย ว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวมีผลตรวจโควิด เป็นบวก โดยกลับมาจากพื้นที่สีแดง ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปช่วยเหลือ จำนวน 3 นาย ต้องเสี่ยงติดโควิดไปอีก และต้องทำการกักตัวเองทันที
นายนพกัญจน์ ใจอารีย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ต้องใช้อาคารเอนกประสงค์ของมูลนิธิประสาทบุญสถาน ในการกักตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัย 3 นาย ตลาดระยะเวลา 14 วัน ซึ่งหากไม่มีอาการ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้ามีอาการก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งก็จะทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะเข้าไปช่วยเหลือเหตุการณ์ต่างๆ น้อยลง จากเดิมที มี 5 ทีม ก็จะเหลือเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บเพียง 4 ทีมเท่านั้น จึงขอวอนให้ผู้ป่วยหรือ ผู้ได้รับบาดเจ็บ กรุณาให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ควรปกปิดข้อมูล เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยเอง และเจ้าหน้าที่ด้วย