มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (Foundation for SOGI Rights and Justice) แจ้งผ่านทางแฟนเพจของมูลนิธิฯ ว่า การนัดเข้ารับฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ที่จำกัดว่า การสมรสอนุญาตเฉพาะคู่รัก ‘ชายและหญิง’ นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถูกเลื่อนการรับฟังคำวินิจฉัยไปเป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
จากเดิมที่วันนี้ (26 เมษายน) เป็นวันที่ทางศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดหมายการอ่านคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากถูกเลื่อนมาจาก เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ศาลเยาวชนฯ แจ้งว่าศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ส่งผลคำวินิจฉัย กรณีคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ถูกปฏิเสธในการจดทะเบียนสมรส ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ เพื่อให้ศาลเยาวชนฯ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
เนื่องด้วยคู่รัก เพิ่มทรัพย์ แซ่อึ้ง และพวงเพชร เหมคำ ซึ่งเป็นคู่รักเพศเดียวกันที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานมากกว่า 13 ปี ถูกปฏิเสธการจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งคู่ได้แต่งตั้งทนายความให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ โดยมีมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ และภาคีเครือข่ายด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ร่วมเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ ซึ่งศาลเยาวชนฯ ได้รับคำร้องและส่งคำร้องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2563 และจะมีการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 มิถุนายน 2564
นอกจากนี้แล้ว ในเส้นทางการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความเท่าเทียมของประชาชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ยังมีร่างพระราชบัญญัติการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 (หรือ ‘พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม’) ซึ่งเสนอโดย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2563 และบรรจุในระเบียบวาระการประชุม แต่ก็ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระหนึ่ง แต่อย่างใด
ที่มา THE STANDARD
