ศบค.ยันไฟเซอร์ไม่หาย ยอดตรงสถานทูต แจงล็อกดาวน์รอประเมิน 18 ส.ค. ถ้าดีขึ้นอาจผ่อนคลาย หากไม่ดีขึ้นยืดถึง 31 ส.ค.
ศบค.แจงข้อกำหนดล็อกดาวน์ฉบับใหม่เริ่ม 3-31 ส.ค. แต่จะประเมิน 2 สัปดาห์ก่อน คือวันที่ 18 ส.ค. หากดีขึ้นอาจผ่อนคลาย หากไม่ดีขึ้นยืดถึง 31 ส.ค. ขอตำรวจ ทหารตั้งด่านเข้มสกัดคนเดินทาง ย้ำวัคซีนไฟเซอร์ล็อตบริจาค ตัวเลขเจรจากับรับจริงต่างกัน ไม่ได้หายไปไหน ย้ำตัวเลขรับจริงตรงกันกับสถานทูต
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงมาตรการล็อกดาวน์ที่มีการประกาศปรับระดับพื้นที่ใหม่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัดว่า
ข้อกำหนดประกาศใหม่มีผลบังคับใช้วันที่ 3 ส.ค. โดยการประกาศยึดตามตัวเลขคือถึงวันที่ 31 ส.ค. แต่เมื่อออกข้อกำหนด ศบค.จะพิจารณาผลการกำกับติดตามในระยะ 2 สัปดาห์ก่อน คือวันที่ 18 ส.ค. จะพิจารณา หากผลกำกับติดตามเป็นไปในทิศทางที่ดี ข้อกำหนดอาจผ่อนคลายได้ หากยังไม่ดีและน่าเป็นห่วงก็ยืดไปถึงวันที่ 31 ส.ค.ได้
นอกจากนี้ ยังพูดถึงตำรวจ ทหารต้องตั้งด่าน พยายามกำกับติดตามมาตรการให้เข้มข้น ประชาชนที่อาจจะจำเป็นต้องเดินทาง เจ้าหน้าที่เรียกดูหลักฐาน อำนวยความสะดวกให้ดีที่สุด แต่ที่ยังไม่จำเป็นต้องเดินทาง 14 วันนี้ ขอความร่วมมือลดการเดินทางหรืองดไปเลย หาก 14 วันดีขึ้นอาจผ่อนคลายมาตรการได้
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์บริจาคก่อนหน้าที่ระบุว่า 1.54 ล้านโดสเป็นตัวเลขที่เคยหารือ แต่รัฐบาลไทยรับจริง 1,503,450 โดส ยืนยันกลับไปที่สถานทูตก็ตรงกัน ขอย้ำว่าขั้นตอนการเจรจา กับการรับจริงตัวเลขอาจต่างกันบ้าง แต่ยืนยันว่าตัวเลขรับจริงถูกต้อง
ส่วนการจัดสรรไฟเซอร์ระบุว่า กระตุ้นเข็มสามบุคลากรทางการแพทย์ กระจายกลุ่มเสี่ยงสูง คือ สูงอายุ 60 ปี โรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และชาวต่างชาติในไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน และคนที่จำเป็นต้องไปต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศย้ำว่าก่อนรับไฟเซอร์ เราฉีดต่างชาติไปแล้วตั้งแต่พ.ค. รวมเกือบ 2 แสนราย
ที่มา : khaosod