WHO วอนชะลอ

WHO วอนชะลอ – วันที่ 5 ส.ค. บีบีซี รายงานว่า นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กรีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเรียกร้องให้นานาประเทศระงับการฉีดวัคซีนโดสสามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 จนถึงสิ้นเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้

เนื่องจากประเทศยากจนหลายประเทศยังขาดแคลนวัคซีน รวมทั้งจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนโดสแรกยังต่ำมากสวนทางการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 201 ล้านคนแล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอีก 756,226 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 4.27 ล้านราย

นพ.กรีเบรเยซุสกล่าวว่า การชะลอฉีดวัคซีนโดสสามในช่วง 2 เดือน จะช่วยให้ประชากรอย่างน้อยร้อยละ 10 ของทุกประเทศทั่วโลกได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งการสร้างภูมิคุ้มกันดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้วัคซีนกระตุ้น” ทำขาดแคลน-ชาติยากจนยังไม่ได้ฉีดโดสสอง

The World Health Organization (WHO) has called for a suspension on booster vaccines for Covid-19 until at least the end of September. WHO Chief Dr Tedros Adhanom Ghebreyesus said a pause would allow for at least 10% of the population in every country to be vaccinated. REUTERS

“ผมเข้าใจถึงความกังวลของรัฐบาลทุกประเทศในการปกป้องประชาชนของพวกเขาจากโควิดกลายพันธ์สายพันธุ์เดลต้า แต่เราไม่สามารถยอมรับได้ที่หลายประเทศซึ่งใช้วัคซีนส่วนใหญ่ของโลกแล้วและยังต้องการใช้วัคซีนเพิ่มขึ้น” ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวย้ำ

และว่าประเทศรายได้ต่ำฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนได้เพียง 1.5 โดสต่อประชากร 100 คนเท่านั้น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราการฉีดต่ำเพียงนี้เป็นเพราะขาดแคลลนวัคซีน และตอนนี้จำเป็นต้องพลิกสถานการณ์และส่งวัคซีนส่วนใหญ่ไปให้ประเทศยากจน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่นพ.กรีเบรเยซุสเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยบริจาควัคซีนแก่ประเทศยากจน ก่อนหน้านี้นพ.กรีเบรเยซุสขอให้ประเทศร่ำรวยเลื่อนแผนฉีดวัคซีนแก่เด็กเพื่อนำไปบริจาคแทน ทั้งยังขอให้จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้กับโครงการโคแวกซ์ ถึงอย่างนั้นหลายประเทศกำลังเร่งดำเนินการแผนฉีดวัคซีนแก่เด็กและเยาวชน ภายหลังพบการระบาดในกลุ่มผู้มีอายุน้อยที่เพิ่มสูงขึ้น

รายงานระบุอีกว่า ประเทศเฮติและสาธารณรัฐคองโตยังไม่มีประชาชนคนไหนได้รับวัคซีนโดสที่สอง ส่วนอินโดนีเซียซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างน้อย 3.53 ล้านคน และเสียชีวิตทะลุแสนราย มีประชาชนได้รับวัคซีนครบสองโดสแค่ร้อยละ 7.9

ขณะเดียวกัน อิสราเอลเริ่มเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นโดสสามสำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี ในเยอรมนีประกาศเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่าจะเริ่มเสนอวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาและบริษัทไฟเซอร์เป็นโดสกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ส่วนสหราชอาณาจักรเตรียมฉีดวัคซีนโดสสามให้ผู้คนนับล้านที่อยู่ในกลุ่มมีภาวะเสี่ยงและสุขภาพเปราะบางซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป

ด้านสหรัฐอเมริกาซึ่งไม่ได้ประกาศนโยบายฉีดวัคซีนกระตุ้น แถลงเมื่อวันพุธที่ 4 ส.ค. ว่า มีปริมาณวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงพอสำหรับกระจายให้ประเทศต่างๆ แต่ขณะเดียวกันชาวอเมริกันก็ต้องได้รับวัคซีนครบโดสด้วย

WHO วอนชะลอ

WHO วอนชะลอ

ที่มา khaosod