รองผบช.น. เผยเตรียมกำลังอย่างน้อย 38 กองร้อย รับมือการชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. พร้อมตั้งจุดสกัด 14 จุด รอบพื้นที่ ยอมรับ อาจเกิดความรุนแรงขึ้น

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 6 ส.ค. 2564 ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยว่า ล่าสุดมีการนัดหมายชุมนุม 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่นัดหมายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนไปพระบรมมหาราชวัง และกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล

และกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ที่มีการรวมตัวในจังหวัดต่าง ๆ ก่อนเคลื่อนตัวมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงย้ำเตือนว่า ขณะนี้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การรวมตัวมั่วสุม ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย โดยจะเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจัดเตรียมกำลังไว้ 38 กองร้อย และมีกำลังสนับสนุนเพียงพอรองรับสถานการณ์ ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมตั้งจุดตรวจค้น 14 จุด รอบพื้นที่ชุมนุม เพื่อป้องกันเหตุร้าย และมือที่สาม

ซึ่งแนวรั้งหน่วงสุดท้ายจะอยู่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมยอมรับว่า การข่าวอาจจะมีการกระทบกระทั่งอย่างรุนแรง เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเดิม ๆ ที่มักใช้วิธีการที่รุนแรง หรือใช้สิ่งเทียมอาวุธในการชุมนุมบ่อยครั้ง ซึ่งผบ.ตร. ได้ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติ เน้นย้ำการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ทั้งเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน และประชาชน

หากพบมีความพยายามบุกรุก เผาทรัพย์ หรือใช้ระเบิดเพลิง ตำรวจก็ต้องใช้มาตรการป้องกัน ไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย โดยใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล ส่วนแกนนำที่มีคดีหรือหมายจับ ย้ำว่า หากพบเมื่อไหร่ ก็จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที

ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. ดูแลงานจราจร กล่าวว่า คาดว่าจะมีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 13 เส้นทาง และ 1 สะพาน โดยรอบอนุสารีย์ประชาธิปไตย สนามหลวง และทำเนียบรัฐบาล จึงแนะนำให้ประชาชนทั่วไป หลีกเลี่ยงเส้นทาง เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร