กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชานำร่องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า รวมถึงข้าราชการ และกองกำลังติดอาวุธใน 7 จังหวัดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย
โดยวันนี้เป็นวันแรกที่ทางการกัมพูชาจะเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า รวมถึงข้าราชการ และกองกำลังติดอาวุธที่อยู่ใน 7 จังหวัดตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ประกอบไปด้วย พระตะบอง บันทายมีชัย ไพลิน เกาะกง อุดรมีชัย โพธิสัตว์ และพระวิหาร
โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 จะเป็นวัคซีนจากแอสตราเซเนกา หากได้รับวัคซีนเข็ม 1 และ 2 เป็นวัคซีนจากซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มของจีน แต่สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นสองโดสแรก จะได้รับวัคซีนจากจีนเป็นวัคซีนกระตุ้นโดสที่ 3
สำหรับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่นำมาใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิในครั้งนี้ กัมพูชาได้รับบริจาคมาจากสหราชอาณาจักรจำนวน 415,000 โดส ซึ่งถ้านับรวมวัคซีนล็อตใหม่นี้ กัมพูชาจะมีวัคซีนโควิด-19 ในสต็อกถึง 21 ล้านโดส ทั้งจากที่ได้รับบริจาคมากและสั่งซื้อมา โดยแยกเป็นวัคซีนจากซิโนฟาร์ม 7.2 ล้านโดส ซิโนแวค 11.5 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 1,071,000 โดส และของจอห์นสันแอนด์จอนห์นสันอีก 1,064,600 โดส
กัมพูชาได้เปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ใหญ่ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. และสำหรับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ในวันที่ 1 ส.ค. โดยข้อมูลจนถึงวันที่ 5 สิงหาคม ทางการสามารถฉีดวัคซีนให้ชาวกัมพูชาวัยผู้ใหญ่ได้ 7,810,469 คน จากเป้าหมาย 10 ล้านคน โดย75.42 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีนเข็มแรก และอีก 5,317,839 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-18 ปี ที่เพิ่งเริ่มฉีดวัคซีนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สามารถฉีดวัคซีนโดสแรกไปได้แล้ว 163,113 คน คิดเป็น 8.29 เปอร์เซ็นต์ จากเป้าหมาย 2 ล้านคน
ขณะที่เมื่อวานนี้ (เสาร์ 7 ส.ค.) กัมพูชาตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 522 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยจากต่างประเทศ 135 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยในประเทศสะสมอยู่ที่ 81,335 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 11 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,537 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยหายดีเพิ่มขึ้นอีก 700 ราย รวมจำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมเป็น 74,745 ราย.
ที่มา : ไทยรัฐ