เจ้าของ รีสอร์ตแพหรู ราคา 20 ล้านบาท เข้าดำเนินการรื้อถอนเคลื่อนย้าย พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคแล้ว หลังจากกรมอุทยานฯ ปิดประกาศคำสั่ง

จากกรณี นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำป้ายประกาศคำสั่งไปติดตั้งที่แพพักหรูระดับ 5 ดาว “ไทรโยคโฟลทเทล” ที่สร้างรุกเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค กลางแม่น้ำแควน้อย ม.7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อให้เจ้าของดำเนินการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักดังกล่าวออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 19 ส.ค.2564 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายจิรายุ พูลทวี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค กว่า 10 นาย ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักข้างต้นออกไปให้พ้นเขตอุทยานฯได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าของผู้ประกอบการแพพักได้ยินยอมที่จะเร่งดำเนินการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักทั้งหมดออกไปให้พ้นเขตอุทยานฯไทรโยค ด้วยตนเอง

นายนิพนธ์ กล่าวว่า คดีนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนโยบายโดยตรงที่ให้อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ดำเนินการป้องกันและปราบปรามกลุ่มนายทุนที่บุกรุกแผ้วถาง ก่อสร้าง เพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสมบัติส่วนรวมของชาติ อย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า โดยหลังจากที่ได้นำป้ายประกาศคำสั่งให้เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนได้เพียงแค่ 13 วัน ปรากฏว่า นายวสันต์ ซึ่งเป็นเจ้าของ ได้นำคนงานเข้าทำการรื้อถอนแพพักบางหลังออกไป เพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากแพบางหลังมีความสูง ไม่สามารถลากลอดใต้สะพานได้ แต่แพส่วนใหญ่ไม่สูงมากนักจึงสามารถลากเคลื่อนย้ายลอดใต้สะพานได้ ภาพรวมการรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักทั้งหมดเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังจากแล้วเสร็จจะทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวกลับมามีความสวยงามตามธรรมชาติเช่นเดิม

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า การที่ผู้ประกอบการยินยอมรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายแพพักออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคด้วยตนเอง ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเจ้าของเอง เพราะหากเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการรื้อถอน จะทำให้เจ้าของผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายรื้อถอนให้กับภาครัฐเป็นเงินจำนวนมากถึง 500,000 บาท และจะต้องจ่ายค่าดำเนินการรายวันไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อถอนแล้วเสร็จวันละ 10,000 บาท ที่สำคัญอาจจะต้องถูกดำเนินคดี ฐานฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ พ.ศ. 2562 มาตรา 35 (1) ที่ได้กำหนดโทษเอาไว้ว่า จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ดังนั้นตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รับผิดชอบอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี และ จ.สุพรรณบุรี อยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงกลุ่มนายทุน เจ้าของผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต รวมทั้งเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรูทั้งหลาย ที่รู้ตัวว่าได้มีการได้กระทำผิดกฎหมายข้างต้น หากถูกจับกุมแล้วอย่าคิดว่าจะหลุดพ้นจากคดี เพราะถึงแม้ว่าอัยการจังหวัดจะพิจารณาสั่งไม่ฟ้องทำให้คดีอาญาต้องยุติไป แต่พื้นที่ที่ถูกบุกรุกยังอยู่ในเขตอุทยานฯ รวมทั้งเขตห้ามล่า และเขตรักษาพันสัตว์ป่านั้น ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปไว้ที่อื่นได้

“ดังนั้นผู้ประกอบการและนายทุนทุกรายที่กระทำผิด จะต้องถูกคำสั่งให้รื้อถอนทุกราย โดยไม่มีคำว่าหมดอายุความเมื่อนำไปเทียบเคียงกับคำพิพากษาฏีกาที่ 18918/2555 แล้วเจ้าหน้าที่ยังคงสามารถ ประกาศคำสั่ง ขับไล่ ให้รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผล อาสินหรือสิ่งอื่นใด ออกไปให้พ้นจากเขตสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ได้ตลอดเวลาถึงแม้ท่านจะมีอายุมากถึง 100 ปี 1,000 ปี หรือมากกว่านั้นก็ตาม” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า สุดท้ายขอประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มนายทุนที่กำลังคิดจะหาซื้อที่ดินทำเลสวยติดแม่น้ำ ติดภูเขา รวมทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าที่มีความเป็นธรรมชาติ เพื่อนำไปสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ต รวมทั้งบ้านพักตากอากาศส่วนตัว ถึงแม้เอกสารที่ผู้ขายนำมาแสดงจะเป็นโฉนด หรือ น.ส.3 น.ส.3 ก. และเอกสารอื่น ๆ ก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อ สามารถนำเอกสารที่มีนำมาที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิกัดที่ตั้งของพื้นที่นั้น ๆ ให้ เพื่อความสบายใจว่าหากลุงทุนไปแล้ว จะไม่เป็นคดีในภายหลัง เพราะพิกัดที่ดินที่ตรวจสอบนั้นจะรู้ความจริงได้ทันทีว่าอยู่ในเขตพื้นที่ของรัฐหรือไม่

ที่มา : ข่าวสด