‘โรม’ ตัดพ้อ ครึ่งปีตีแผ่ ‘ตั๋วช้าง’ ไร้ความเปลี่ยนแปลง ชี้ วงการตร.ต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ ถาม ‘ประยุทธ์-ประวิตร’ จริงจังแค่ไหนจัดการปม ‘ผกก.โจ้’
วันที่ 25 ส.ค.64 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ประเด็นที่สั่นสะเทือนสังคมไทยที่สุดประเด็นหนึ่ง ณ เวลานี้ คือ การกระทำของตำรวจต่อประชาชน ทั้งผู้ชุมนุมที่ถูกทำร้าย สลายการชุมนุม จนเกิดเป็นวิกฤติศรัทธาต่อวงการตำรวจอย่างหนัก
และนี่ยังผ่านไปเพียงครึ่งปี ที่ได้ทำการอภิปรายกรณีตั๋วช้างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่ผ่านมา เพื่อชี้ให้เห็นว่าในวงการตำรวจมีการใช้เส้นสาย ระบบตั๋ว อ้างความใกล้ชิดเบื้องสูง ทำการสร้างเครือข่ายที่ไม่มีใครกล้าตรวจสอบด้วยเครื่องแบบของคนดีผู้ใกล้ชิด
“ผลที่ตามมาหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่มีการพยายามชี้แจงต่อสังคม แก้ปัญหาระบบตั๋วหรือจัดการอะไรทั้งสิ้น ทำราวกับว่าสิ่งที่ประชาชนรู้กันไปทั่วแล้วนี้ไม่อยู่ในสารบบความคิดหรือสนใจของตำรวจที่เส้นใหญ่จนไม่มีใครกล้าไปตรวจสอบอะไรต่อ” นายรังสิมันต์ ระบุ
นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า จนเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการรีดไถและซ้อมผู้ต้องหาที่จับกุมได้จนเสียชีวิต หลังจากมีความพยายามไถเงิน 2 ล้านบาท ใช้ถุงคลุมศีรษะจนผู้ต้องหาขาดใจตาย แล้วไปพยายามปิดปากครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.ลบวีดีโอกล้องวงจรปิด แล้วมาอ้างต่อสาธารณะว่าผู้ต้องหาเสพยาเกินขนาด
“สุดท้าย ผมก็ได้เห็นคลิปวิดีโอสองชิ้นที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจนว่า ผู้กำกับคนดี ที่อ้างตัวว่าสนิทสนมกับ พลตำรวจโท ต. ผู้กว้างขวางแห่งวงการตำรวจที่ผมเอ่ยถึงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ซ้อมฆ่าคนและอำพรางคดีหน้าตาเฉย ราวกับว่าชีวิตคนเป็นผักปลา นี่หรือคนดี นี่หรือผลผลิตของระบบที่ผมเคยพูดถึงไป สุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นกับตำรวจคนนี้
สุดท้ายก็แค่ถูกสั่งย้ายจากผลของการฆ่าคนตายและพยายามอำพรางคดี น่าเหลือเชื่อจริงๆ การเป็นตำรวจที่มีเส้นสายในระบบเครือข่ายอะไรแบบนี้ได้ จะทำอะไรก็คงสะดวกสบายไปหมดจริงๆ” นายรังสิมันต์ ระบุ
นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า วงการตำรวจก็ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ รวมไปถึงหัวเรือใหญ่ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร. ที่จะจริงจังแค่ไหนกับการดำเนินการต่อกับกรณีที่เกิดขึ้น มิฉะนั้น การปล่อยให้ตำรวจที่อ้างตัวใกล้ชิดเบื้องสูงทำอะไรไปเรื่อยๆแบบนี้ สุดท้ายคงไม่พ้นจะพากันพังหมดทั้งโครงสร้างแน่ๆ
ที่มา khaosod
