โดยการติดเชื้อครั้งนี้เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่โรงเรียนให้เด็กนักเรียนทุกคนสวมหน้ากาก โต๊ะของเด็กแต่ละคนก็ตั้งห่างกันราว 6 ฟุต มีการเปิดหน้าต่างห้องเรียนทั้งสองด้าน และยังติดตั้งเครื่องกรองอากาศคุณภาพสูงระดับเฮป้า (HEPA) ที่หน้าห้องเรียนทุกห้อง นอกจากนี้ ยังมีรายงานเด็กนักเรียนในระดับชั้นอื่นติดโควิด-19 อีก 6 คน และมีผู้ปกครองและพี่น้องของเด็กนักเรียนติดเชื้ออีก 8 คน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าการติดเชื้อมีการกระจายข้ามห้องเรียนไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้มีอาการป่วยไม่รุนแรงมาก ส่วนใหญ่มีไข้ ไอ ปวดหัว และเจ็บคอ แต่ไม่มีใครอาการหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล

จากกรณีศึกษาที่พบดังกล่าวทำให้หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต้องเร่งกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรของโรงเรียน เพื่อเป็นการปกป้องเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถรับวัคซีนได้ในเวลานี้ เนื่องจากโรงเรียนส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเรียนตามปกติแล้ว ท่ามกลางการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตานี้ ทำให้ยอดติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว มาตรการอื่นๆ ทั้งการสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่าง การระบายอากาศที่ดี และหยุดอยู่บ้านทันทีที่มีอาการป่วย จะช่วยให้การควบคุมการระบาดยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น.

ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย