“ธรรมนัส” เดือด ไอ้ห้อยไอ้โหน ปล่อยข่าวเสี้ยมคว่ำนายกฯ ขู่ สมัยหน้าไม่ส่งลง ส.ส.แน่ ติง รมต.ในพรรค ไร้ผลงานบอกชาวบ้าน ลั่น อย่ากดดันมาก เพราะมาจากประชาชน เมินคุย “บิ๊กตู่” ถกแต่กับหัวหน้า พปชร.เท่านั้น

วันที่ 1 ก.ย. 2564 เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวอยู่เบื้องหลัง การเคลื่อนไหวล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ก่อนจะพูดเรื่องอื่นขอบอกกับสื่อมวลชนว่า ชื่นชมเกือบทุกสำนักที่นำเสนอเรื่องราวด้วยความเป็นกลาง แต่ฝากไปถึงสื่อสำนักหนึ่ง ให้รู้จักจิตสำนึกและจริยธรรมของความเป็นสื่อในการนำเสนอ เพราะมีสำนักหนึ่งที่แยกตัวมาใหม่ และตนฟ้องอยู่ที่ จ.พะเยา พยายามนำตนไปพูดในทางเสียหาย ไปเขียนเอาเอง โดยไม่ฟังเสียงประชาชนที่เดือดร้อนกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ไปเขียนชื่นชมใครบางคน

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนที่ถามถึงข้อเท็จจริงของกระแสข่าวนั้น ขอยืนยันว่าไม่เคยสนใจ หรือใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ และพูดมาเสมอว่า จากลูกชาวนา เด็กบ้านนอก คนจน มาถึงทุกวันนี้ และได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองถือว่าชีวิตสูงสุดแล้ว ส่วนที่เหลือถ้ามีโอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง รับใช้แผ่นดิน รับใช้ประชาชน ก็จะทำให้ดีที่สุด ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คงไม่ต้องพูดอะไรมากว่าทำอะไรเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนบ้าง ดังนั้น การจะมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในรัฐบาล ในคณะรัฐมนตรีเดียวกัน ไม่ใช่พฤติกรรมของตน หากจำได้การประชุมใหญ่พรรค พปชร.ที่ จ.ขอนแก่น ได้ยืนยันว่า จะนำพรรค พปชร.ให้เป็นสถาบันการเมืองที่มีความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของประชาชน และจะทำต่อไป

“ข่าวลือที่ออกมาว่าผมจะทำอันนู้นอันนี้ ไม่เป็นความจริง และมีข่าวที่ได้ยินมาจาก ส.ส.ที่โทรศัพท์มาหาว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กคนหนึ่งเสนอรับเงิน 10 ล้านบาท เพื่อต่างตอบแทน และร้ายไปกว่านั้นมีรัฐมนตรีในพรรค พปชร.รับงานมาล็อบบี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรค พปชร.ในการโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ต้องถามว่า คนเป็นรัฐมนตรีสมควรทำอย่างนั้นหรือไม่ เพราะควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ต้องใคร 4 ช.ที่ว่ากัน ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้าง อย่าเห็นผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือ คำตอบของผม” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการโยงชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหนึ่งในขบวนการล้มนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุชัดเจนว่า 1 เสียงของ ส.ส.คือ เสียงจากประชาชน ส.ส.รู้จักคิด รู้จักทำว่าควรจะทำอะไร ไม่สามารถไปครอบงำอะไรได้ มติพรรคจะให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ เพราะผิดรัฐธรรมนูญ พรรค พปชร.ไม่มีอย่างนั้น ใครมาถามก็บอกไปว่าดูแล้วกัน และให้ตัดสินใจเอง ตนไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใคร ไม่ว่าจะให้ช่วยรัฐบาลหรือไปรับรองพรรคอื่นให้มาช่วย หรือโหวตคว่ำใครคนใดคนหนึ่ง ตนไม่ทำ และตนเข้ามาสภาก็มีทุกพรรคเข้ามาสวัสดี ถ่ายรูปด้วย นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ดึงแขนมาก็เพื่อจะคุยเรื่อง ส.ป.ก. เป็นเรื่องปกติ ไม่เคยคิดว่าคนต่างพรรคจะต้องเป็นศัตรูกัน แม้แต่ถูกกระทำก็ไม่เคยโทษใคร เขาจะด่าเราอย่างไรก็ควรนำมาปรับปรุงตัวเอง ถามว่าในคณะรัฐมนตรีใครโดนหนักเท่าตนบ้าง มีม็อบบุกไปที่บ้านของตน ใครโดนแบบนี้บ้าง เคยได้ยินบ่นหรือแหกปากสักคำหรือไม่ เพราะไม่ใช่สัตว์ประเภทที่เหยียบหางหน่อยแล้วมาแหกปาก

เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องดังกล่าวมีขบวนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ขบวนการมีหรือไม่มีต้องไปถามคนเต้าข่าวว่าต้องการอะไรแน่ คนเต้าข่าวไม่ใช่ฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาล ไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลาย ชอบเลียแข้งเลียขา สำเหนียกซะบ้าง ผมรู้หมดแล้ว บางคนบันทึกเทปไว้หมดแล้ว ระวัง เดี๋ยวเจอกัน”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอถามกลับไปหาไอ้ห้อยไอ้โหนว่าเคยทำเหมือนตนหรือไม่ที่นำนโยบายของนายกฯ นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและชาติบ้านเมือง มัวแต่ห้อยโหนอย่างนี้ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร ตนพูดเสมอว่าไม่โกรธใคร ไม่แค้นใคร แต่จำนาน และพี่น้องร่วมอุดมการณ์เยอะ

เมื่อถามย้ำว่า ต้องทำความเข้าใจกับนายกฯ หรือไม่ เพราะอาจจะไม่พอใจกับกระแสข่าวที่ออกมา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมไม่ได้คุยกับนายกฯ ผมคุยกับหัวหน้าพรรคผม และนายกฯ ก็พูดตลอดเวลาว่าจะคุยเฉพาะหัวหน้าพรรค เราเป็นลูกพรรคและเป็นเลขาธิการพรรคก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค กินข้าวคุยด้วยกันทุกวัน และในการประชุมพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ถามพี่น้องทุกคนเลยว่าผมพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขา มท.1 ได้ยินจากปากผมหรอครับ ผมพูดกับ ส.ส. 50-60 คน บอกว่า ส.ส.ในพรรคอึดอัดหลายเรื่อง และรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ตรงนี้มีผลงานไปบอก ส.ส.ให้บอกชาวบ้าน นี่คือ ผลงานของพรรค พปชร. ส.ส.ตอบได้เลยว่าไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว คนที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าเป็นที่พึ่งไม่ได้ อย่าเป็น ส.ส.เลยดีกว่า แล้วถ้าไม่เคลียร์ตัวผมพร้อมที่จะกลับไปเป็น ส.ส.เหมือนเดิม ไม่ได้สนใจด้วย”

เมื่อถามว่า มีแนวคิดอยากเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า บอกแล้วว่า ไม่เคยใส่ใจตำแหน่งหน้าที่ จะอยู่ในสถานะใด แม้แต่ตอนเป็นนายธรรมนัส เป็นประธานมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ทำอะไรเพื่อคนพะเยา คนภาคเหนือบ้าง ดังนั้น ทุกอย่างไม่จำเป็น ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจสั่งสมองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าทุกอย่างเป็นข่าวลือ และต้องการสกัดดาวรุ่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่ากดดันกันมาก ผมมาจากประชาชน”

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเป็นคนจำนาน จะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นคนแบบนี้ จำนาน และจำดี แต่ไม่ใช่การแก้แค้น ถ้าคนเหล่านั้นไม่แก้ไขก็ถูกประชาชนลงโทษเอง และบอกได้เลยว่าถ้ายังเป็นแกนนำพรรค พปชร. ส.ส.ที่เป็นไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายสมัยหน้าไม่ได้ลงหรอก

ที่มา thairath