สมาคมบอล เผยรอความชัดเจนจากหน่วยงานรัฐบาลในการยื่นตัวเป็นเจ้าภาพเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ด้านเลขาสมาคมแย้มเตรียมคุยมาดามแป้ง เรื่องกุนซือใหญ่คนใหม่ทัพช้างศึก

สมาคมบอล เผยว่า จากการที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) จะจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน (เอเอฟเอ ซูซูกิ คัพ) ในระหว่างเดือนธ.ค. ต่อเนื่องไปถึงต้นเดือนม.ค.ปีหน้า แต่เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยังไม่สามารถจัดแข่งขันแบบเหย้า-เยือนเหมือนช่วงหลังที่ผ่านมาได้ จึงจำเป็นต้องจัดแข่งแบบเจ้าภาพชาติเดียว โดยได้ส่งหนังสือถึงชาติสมาชิกที่ต้องการเป็นเจ้าภาพเรียบร้อยแล้ว

นายพาทิศ ศุภพะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ถึงตอนนี้เอเอฟเอฟ อยู่ในขั้นตอนการส่งหนังสือรวมถือข้อกำหนดด้านสาธารณสุขให้กับชาติสมาชิกว่าชาติใดจะขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งซูซูกิ คัพ ในช่วงปลายปีนี้บ้าง”

“โดยหนังสือที่ส่งมานั้นมีข้อแม้เรื่องของการงดเว้นเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ว่าประเทศใดจะรับเงื่อนไขได้บ้างเช่น งดเว้นการกักตัว หรือลดระยะเวลาในการกักตัวกรณีที่ทีมฟุตบอลชาติอื่นๆ เดินทางเข้าประเทศ ระบบการจัดแข่งขัน สถานที่พักซึ่งต้องจัดทำแบบบับเบิล รวมถึงการตรวจหาเชื้อต่างๆ”

“ในส่วนของประเทศไทยเราต้องรอดูท่าทีของหน่วยงานรัฐบาลว่าเห็นด้วยกับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพครั้งนี้หรือไม่ แม้ว่าสมาคมฟุตบอลจะเห็นด้วยและต้องการเสนอตัว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่เอเอฟเอฟให้มานั้น หน่วยงานด้านสาธารณสุขของไทยสามารถรับเงื่อนไขนั้นได้หรือไม่”

“ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐในส่วนของกีฬาคือการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แสดงความต้องการชัดเจนว่าอยากให้ไทยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการนี้ ด้วยมองว่าศักยภาพของไทยนั้นสามารถทำได้ เช่นเดียวกับคุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) ผู้จัดการทีมชาติไทยที่ต้องการให้เราเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าผลกระทบต่อการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศนั้นมีน้อยที่สุด นักเตะไม่ต้องกักตัวเมื่อแข่งขันเสร็จ สามารถกลับเข้าสู่สโมสรได้ทันที”

“เมื่อเราต้องการจะเป็นเจ้าภาพจะต้องทำแผนงานที่ต้องทำรวมถึงข้อเสนอจากเอเอฟเอฟ ส่งต่อให้กับรัฐบาล หลังจากนั้นเราจะรอดูว่ารัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ได้แล้ว เราจะส่งหนังสือถึงเอเอฟเอ เพื่อเสนอตัวจัดซูซูกิ คัพ อย่างเป็นทางการต่อไป”

“แน่นอนฟุตบอลรายการนี้คือชิงแชมป์อาเซียน ดังนั้นเอเอฟเอฟ จะพิจารณาจากชาติอาเซียนเป็นลำดับแรก คงยังไม่มองถึงการจัดแข่งขันในประเทศเป็นกลางเหมือนกับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หรือฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ที่สำคัญคงไม่มีชาติเป็นกลางอยากจัดแข่งให้ เนื่องจากมองว่าชาติของตนนั้นไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้”

“ขณะที่เรื่องหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ต้องยอมรับว่าตอนนี้เรากำลังให้ความสำคัญกับการเตรียมทีมของรุ่นไม่เกิน 23 ปี ที่มีโปรแกรมชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เป็นหลัก แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้เราจะมีการหารือกับคุณแป้งผู้จัดการทีมชาติไทยว่ามีใครบ้างที่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานมาก เราคงจะได้เห็นว่าใครมีคุณสมบัติเพียงพอต่อการนั่งตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชาติชุดใหญ่”

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดกีฬา