ศบค. ย้ำ เด็กฉีดวัคซีน สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการแน่นหน้าอก คล้ายกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบให้รีบไป รพ. ชี้โอกาสเกิดน้อยกว่าการติดเชื้อ 6 เท่า

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวถึงการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก ว่า สำหรับเด็กที่รับวัคซีนแล้ว เน้นย้ำให้สังเกตอาการตัวเอง

เพราะการฉีดไฟเซอร์ในต่างประเทศมีรายงานอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ คือ มีอาการแน่นหน้าอก หน้ามืด เป็นลม ให้สังเกตอาการใน 1 สัปดาห์ หากมีอาการแจ้งผู้ปกครองไป รพ.ใกล้บ้านให้เร็วที่สุด ให้ข้อมูลด้วยว่าฉีดวัคซีนไป ซึ่งจากวันที่ 4 ต.ค.ที่เริ่มฉีด

ขณะนี้ฉีดไปแล้วเกือบ 3 หมื่นรายทั่วประเทศ ผู้ปกครองยินยอม 3.5 ล้านรายเหลือ 1 ล้านรายยังไม่ได้ลงทะเบียน ขอให้ขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ หากพร้อมเมื่อไรติดต่อขอรับวัคซีนได้ โอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์ในเด็กเกิดขึ้นได้แต่น้อย ซึ่งเด็กติดเชื้อมีการอักเสบอวัยวะต่างๆ คิดเป็น 16 ต่อแสน แต่รับวัคซีนโอกาสเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบน้อยกว่าการติดเชื้อ 6 เท่า อัตราเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนน้อยกว่าอย่างมากจากโรคติดโควิด แนะนำไปรับวัคซีน เป็นภูมิคุ้มกันนำไปสู่การเปิดโรงเรียนเดือน พ.ย.

จากข้อมูล ณ วันที่ 5 ตุลาคม พบผู้เรียนทั้งหมด 5,070,708 คน แจ้งประสงค์ขอรับวัคซีน 3,774,442 คน คิดเป็น 74.44% เมื่อแบ่งภาพรวมร้อยละการฉีดวัคซีนในแต่ละภูมิภาค มีดังนี้ ภาคเหนือ 74.79% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 69.27% ภาคตะวัคออก 78.68% ภาคตะวันตก 73.82% ภาคกลาง 77.61% และภาคใต้ 76.78%

ที่มา khaosod