“อนุทิน” ควง “พิพัฒน์” ประชุมร่วม “ผู้ว่าฯ กระบี่” แนวทางเปิดจังหวัดเพื่อรับนักท่องเที่ยว พร้อมมอบวัคซีน 5 แสนโดสให้กระบี่เร่งฉีดให้ประชาชนทันสิ้นเดือนนี้ มั่นใจไฮซีซั่นปลายปีโกยเงิน นทท.ตรึม
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทีม ส.ส.ภูมิใจไทย และคณะ เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.กระบี่ พร้อมหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ จ.กระบี่ พร้อมสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดเมืองรับการท่องเที่ยว ภายหลังการประชุม นายอนุทิน ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิดยี่ห้อแอสตราเซเนกา และซิโนแวค ให้กับ ผวจ.กระบี่ โดยยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุข จะเร่งจัดส่งวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ จำนวน 500,000 โดส ให้กับ จ.กระบี่ ให้ทันสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้ชาวกระบี่ถึงร้อยละ 70 รองรับการเปิดท่องเที่ยว
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับวัคซีนนำมามอบในวันนี้ เป็นวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องเร่งส่งมอบไปยังแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนจะส่งมอบไปจำนวนเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด และสถานการณ์ของแต่ละจังหวัดด้วย ในส่วนของกระบี่ อยู่ในกลุ่มจังหวัดที่ต้องเร่งทำการเปิดการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คู่ไปกับภูเก็ต ถ้าไม่เปิดคู่กันไป นทท.ก็จะไปล้นที่ จ.ภูเก็ต ดังนั้นกระบี่ต้องมีประชากรที่รับวัคซีนในระดับที่ปลอดภัยสูงสุด ซึ่งจากข้อมูลที่รับทราบฉีดไปแล้วตอนนี้จำนวน 3 แสนคน จะต้องฉีดเพิ่มอีกให้ถึงกว่า 4 แสนคน ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะเร่งจัดสรรวัคซีนมาให้ครบ ก็คาดว่าต้องใช้วัคซีนอีกอย่างน้อย 5 แสนโดส เพื่อให้ประชากรได้รับวัคซีนมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หากเกินเป้าแล้วประชาชนที่เหลือแสดงความประสงค์จะฉีดเพิ่มอีก ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะกระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว เมื่อประชากรในพื้นที่ปลอดภัย ก็จะสามารถรับ นทท.ได้มากขึ้น การแพร่เชื้อ การระบาด ก็จะลดน้อยลง ส่วนกลุ่ม จนท. ก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบ ใครฉีดซิโนแวคครบแล้ว 2 เข็ม ก็ให้มารับเข็ม 3 ตามสูตรที่กรมควบคุมโรคได้กำหนดไว้ โดยจะทำแบบนี้ไปทุกจังหวัด คาดว่าในสิ้นปี ชาวไทยทั้งประเทศน่าจะมีภูมิคุ้นกันจากการรับวัคซีนอย่างถ้วนหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเร่งเปิดการท่องเที่ยว ในขณะที่สถานการณ์ระบาดยังรุนแรงอยู่ จะทำให้เกิดปัญหาตามมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน อย่างตนเดินทางมากระบี่กับคณะ ตนเองก็ต้องไปทำ RT-PCR ไปตรวจหาเชื้อภายใน 72 ชม. แล้วนำมาแสดง แม้แต่ตนก็มาไม่ได้หากไม่ไปทำการตรวจหาเชื้อก่อน เพราะฉะนั้นใครที่เข้ามาใน จ.กระบี่ จะต้องทำตามมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น หากคัดกรองได้แล้ว โอกาสจะระบาดก็จะน้อยลง ที่สำคัญหากประชาชนในพื้นที่ในฐานะเจ้าบ้าน ได้รับการป้องกันด้วยวัคซีนในจำนวนมาก ก็จะไม่อันตรายอีกต่อไป ก่อนนี้แม้จะเกิดปัญหาระบาดบนเกาะพีพี หลังทดลองเปิดให้ท่องเที่ยว และมีการคัดกรองอย่างเข้มข้นแล้วนั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้เกิดการระบาดจากคนในพื้นที่ แต่คนที่เข้าไปต้องมีการคัดกรองให้เข้มงวดมากขึ้น และต้องทำความเข้าใจก่อนว่าประโยชน์ของการได้รับวัคซีน คือการทำให้ไม่ป่วยหนัก ไม่เสียชีวิต ส่วนโอกาสจะติดเชื้อมีแน่ เหมือนเรารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ แต่จะช่วยให้อาการไม่รุนแรง เพราะฉะนั้น เราต้องยอมรับความเสี่ยงอยู่ในระดับหนึ่ง จึงต้องเร่งฉีดวัคซีนให้คนกระบี่ให้ครบโดยเร็ว ทาง สสจ.กระบี่ แจ้งว่าจะเร่งฉีดให้ครบในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ แต่ตนเผื่อให้ไปจนถึงกลางเดือน พ.ย. กระบี่ก็จะปลอดภัย เข้าไฮซีซั่นช่วงปลายปี กระบี่จะกลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาเที่ยวได้ แล้วใช้วิธีแก้ไปทีละจังหวัดแบบนี้ ตนยังไม่อยากให้ความมั่นใจว่ารับวัคซีนแล้วจะไม่มีการระบาด แต่อยู่ที่คนกระบี่ต้องให้ความมั่นใจ ต้องช่วยกันระวังการเข้ามาอย่างผิดกฎหมายของทั้งคนต่างด้าว แล้วคนที่ไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองด้วย.
ที่มา thairath