รัฐบาลเดินหน้าพร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ระดมฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้า โว ยอดติดเชื้อใหม่ต่ำกว่า 10,000 หลายวันติดต่อกัน ย้ำกิจกรรมปีใหม่ต้องเคร่งมาตรการ สธ.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (24 ต.ค. 2564) ว่า ตามที่รัฐบาลประกาศนโยบายเดินหน้าเปิดประเทศรับการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไปนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดสแล้ว แบ่งเป็น
- เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28% ของประชากรไทยทั่วประเทศ
- เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น 39.26% ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59% ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน (หรือ 70% ของประชากรไทยทั่วประเทศ)
- เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส
- เข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส
นอกจากนี้ ในส่วนของภาพรวมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป (นักเรียนชั้น ป.6/ม.1/นักศึกษา ปวช. 1-3/ปวส. 1-2) ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78% (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบ On-Site ต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย กว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน (23 ต.ค. 2564) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม1,693,203 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าหมื่นรายหลายวันติดต่อกันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี
“นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดำเนินการและการออกมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ แม้มาตรการบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้าง โดยพยายามดูทั้งความปลอดภัยด้านสุขภาพและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป แนวทางการเปิดประเทศ หรือกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปลายปีนี้ ไม่ว่าจะจัดโดยภาครัฐหรือเอกชน ต้องสอดคล้องกับมาตรการสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไม่ต่ำว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและมาตรการควบคุมดูแลทางสาธารณสุขที่เป็นระบบ ขอให้คนไทยทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมประเทศ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล Universal Prevention และ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจสู่การเปิดประเทศที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน”.