คณะผู้สืบสวนยูเอ็น – เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เอพี รายงานว่า คณะผู้สืบสวนของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุพบหลักฐานเบื้องต้นถึงอาชญากรรมร้ายแรง และการโจมตีพลเรือนอย่างเป็นระบบอย่างกว้างขวางที่เข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังกองทัพเมียนมายึดอำนาจรัฐบาลประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. โดยอ้างถึงการโกงเลือกตั้งครั้งมโหฬาร แต่ไม่เคยแสดงหลักฐานใดๆ.
นายนิโกลาส คูมเจียน ประธานคณะผู้สืบสวนยูเอ็น กล่าวว่า คณะผู้สืบสวนอิสระในเมียนมาที่ตนเป็นหัวหน้าคณะได้รับข้อมูลด้านการสื่อสารกว่า 2 แสนชิ้น และหลักฐานอีกกว่า 1.5 ล้านชิ้น อยู่ระหว่างการนำไปวิเคราะห์เมื่อที่วันหนึ่งข้างหน้าจะนำมาใช้มัดตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการก่ออาชญากรรมสากลร้ายแรงในเมียนมาได้.
นายคูมเจียนระบุว่า อาชญากรรมร้ายแรงดังกล่าวมีลักษณะของการดำเนินการอย่างเป็นระบบและถูกใช้อย่างกว้างขวาง อาทิ ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการยึดอำนาจต่อผู้ประท้วงต่อต้านซึ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ.
นอกจากนี้ คณะผู้สืบสวนยูเอ็นยังพบว่า เหตุการณ์ในทำนองนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่พร้อมกัน บ่งชี้ว่าเป็นนโยบายจากส่วนกลางอำนาจ รวมถึงการจับกุม คุมขัง ที่ปราศจากกระบวนการทางกฎหมายต่อพลเรือน โดยเฉพาะนักข่าว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบุคคลที่มีแนวคิดทางการเมืองไม่สอดคล้องกับกองทัพเมียนมา.
นายคูมเจียนเปิดเผยด้วยว่า คณะผู้สืบสวนของตนได้รับคำสั่งตรงจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ให้ทำงานประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี นครเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึงกรณีข้อครหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงยาในเมียนมาด้วย.
ที่มา : ข่าวสด