รัฐบาลจีน บริจาควัคซีนซิโนแวคจำนวน 1.5 ล้านโดสและเวชภัณฑ์มูลค่า 10 ล้านหยวน ให้แก่รัฐบาลไทย

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งส่งมอบวัคซีนและเวชภัณฑ์ต่อสู้โควิด-19 ที่รัฐบาลจีนบริจาคให้รัฐบาลไทยเพิ่มเติมอีกล็อตหนึ่ง

ท่านทูตหานได้นำความปรารถนาดีและคำอวยพรจากผู้นำจีนมายังนายกรัฐมนตรี และได้กล่าวว่าประเทศจีนกับประเทศไทยมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ มีความผูกพันทางสายเลือด มิตรภาพระหว่างจีนกับไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศเคารพในเส้นทางและรูปแบบการพัฒนาซึ่งกันและกัน สนับสนุนในผลประโยชน์หลักและข้อกังวลสำคัญซึ่งกันและกัน โดยการร่วมมือต่อสู้โควิด-19 มิตรภาพระหว่างสองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความร่วมมือระหว่างกันได้เพิ่มพลังขับเคลื่อนมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันนี้ ความสัมพันธ์จีน-ไทยกำลังเผชิญกับโอกาสใหม่ ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมกับฝ่ายไทย ส่งเสริมความร่วมมือในการต่อสู้โรคโควิดและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อยุทธศาสตร์แห่งการพัฒนา ขยายความร่วมมือในปริมณฑลใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว เพิ่มพูนการติดต่อและประสานงานในกิจการภูมิภาคและระหว่างประเทศ ผลักดันให้ความสัมพันธ์จีน-ไทยพัฒนาก้าวหน้าต่อไป ร่วมกันรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก

ขณะที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอฝากความปรารถนาดีไปยังผู้นำจีน พร้อมทั้งแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และชื่นชมประเทศจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในการขจัดความยากจน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไทยขอขอบคุณอย่างจริงใจที่ฝ่ายจีนให้การสนับสนุนต่อฝ่ายไทยในการต่อสู้โควิดอย่างต่อเนื่อง ยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายจีนในการวิจัยและผลิตวัคซีนและยารักษาโควิด-19 หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมให้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 กับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางเชื่อมต่อกัน ตลอดจนความเชื่อมต่อระหว่างระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) พัฒนาโครงการสำคัญต่างๆ ให้ดี เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างรถไฟไทย-จีนกับรถไฟจีน-ลาว

ประเทศไทยยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว ชื่นชมจีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบในกิจการภูมิภาคและระหว่างประเทศ พร้อมที่จะส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือกับฝ่ายจีนภายใต้กรอบอาเซียน-จีน ความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี–เจ้าพระยา–แม่โขง (ACMECS) ปีหน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค (APEC) หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายจีน

หลังเสร็จสิ้นการหารือ ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ส่งมอบวัคซีนซิโนแวคจำนวน 1.5 ล้านโดสและเวชภัณฑ์มูลค่า 10 ล้านหยวน (ราว 50 ล้านบาท) ซึ่งประกอบด้วยเครื่องผลิตออกซิเจน 3,000 เครื่อง และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 1,500 เครื่อง ให้นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากเป็นตัวแทนรัฐบาลจีนในการส่งมอบวัคซีนและเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในการต่อกับสู้โควิด-19 ให้แก่รัฐบาลไทย โดยกล่าวว่า การส่งมอบเวชภัณฑ์ต่อสู้โควิด-19 ให้แก่รัฐบาลไทยในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยจากประชาชนชาวจีนที่พร้อมดูแลช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยในการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างจริงใจ

เมื่อเกิดการระบาดอย่างกะทันหันในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือประเทศจีนอย่างแข็งขันในการต่อสู้กับโรคระบาดในหลายแนวทาง จีนและไทยร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาดและเอาชนะความยากลำบากไปด้วยกัน สิ่งนี้สะท้อนถึงสัมพันธไมตรีอันดีและการมีโชคชะตาร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง ดังสุภาษิตที่ว่า “ลมแรงพิสูจน์ต้นกล้า ยามยากพิสูจน์มิตรแท้”

หลังจากการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ผ่านพ้นไป มิตรภาพอันดีระหว่างประชาชนจีน-ไทยจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แรงผลักดันในการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทยจะยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อไปภายใต้สถานการณ์ใหม่ เพื่อนำประโยชน์อันเป็นรูปธรรมมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้น และสร้างคุณูปการต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและทั่วโลกอีกด้วย